กำชับเร่งแก้ปัญหาโครงการปรับปรุงถนนรามคำแหง 24 บรรเทาความเดือดร้อนหลังเกิดน้ำท่วมขังจากฝนตกหนัก
ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สอง (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2567 วันนี้ (3 เม.ย.67) นางสาวนภัสสร พละระวีพงศ์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตบางกะปิ ได้ยื่นกระทู้ถามสด เรื่อง ขอทราบการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นจากการปรับปรุงถนนรามคำแหง 24
.
เนื่องจากกรุงเทพมหานคร โดยสำนักการโยธา ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างปรับปรุงถนนรามคำแหง 24 เพื่อขยายเส้นทางการจราจร มีการตัดท่อระบายน้ำเมื่อเกิดฝนตก น้ำไม่สามารถระบายผ่านท่อระบายน้ำได้ ทำให้เกิดน้ำท่วม ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีประชาชนพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่สัญจร จึงขอสอบถามผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นจากการปรับปรุงถนนรามคำแหง 24
.
“ถนนรามคำแหงหรือเส้นหลังม.รามคำแหง หลังกกท. (การกีฬาแห่งประเทศไทย) มีผู้อาศัยในบริเวณดังกล่าวและใช้สัญจรเป็นจำนวนมาก และมีโครงการปรับปรุงถนนของสำนักการโยธา เมื่อเกิดเหตุฝนตก เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา ประมาณ 1 ชั่วโมง ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าในพื้นที่มีเครื่องสูบน้ำไม่เพียงพอ และสำนักงานเขตบางกะปิได้พยายามแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นด้วยการลอกท่อระบายน้ำแล้ว จึงขอสอบถามความคืบหน้าการดำเนินการของโครงการนี้” นางสาวนภัสสร กล่าว
.
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า วันที่เกิดฝนตกมีปริมาณฝนเพียง 60 มล.แต่ทำให้เกิดน้ำท่วมขังที่น่าตกใจ เข้าใจว่าเป็นผลมาจากการก่อสร้างในพื้นที่ และถนนเส้นนี้เป็นถนนสำคัญ เดิมเป็นถนนยกระดับแต่มีปัญหากับประชาชนจึงได้แก้ถนนให้เป็นแนวราบโดยขอพื้นที่จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ถือว่าเป็นโครงการสำคัญ
.
นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการดำเนินการปรับปรุงถนนรามคำแหงเดิมเป็นสะพานยกระดับได้ปรับให้เป็นถนนทางราบ โดยได้รับความอนุเคราะห์สถานที่จากมหาวทยาลัยรามคำแหง ซึ่งโครงการนี้เป็นพื้นที่จุดอ่อนน้ำท่วม มีท่อระบายน้ำขนาด 60 ซม. เพียงฝั่งเดียว และมีปัญหาขยะและคราบไขมันอุดตันบ่อยครั้ง เนื่องจากบริเวณโดยรอบเป็นพื้นที่ชุมชน มีการค้าขายหนาแน่น โครงการปรับปรุงซึ่งสำนักการระบายน้ำกับสำนักการโยธาจะมีการปรับแก้แบบเพิ่มท่อระบายน้ำ ทำให้ล่าช้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างตามแบบใหม่ที่ได้รับการอนุมัติมา ความคืบหน้าโดยรวมของโครงการอยู่ที่ 14%
.
สำหรับข้อกังวลเรื่องระบบท่อระบายน้ำที่ล่าช้า สำนักการระบายน้ำและสำนักการโยธาได้ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยกำหนด 8 มาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบระหว่างการก่อสร้าง ประกอบด้วย
1.การเชื่อมต่อท่อระบายน้ำเข้ากับซอยถาวรธวัช 1 เพื่อระบายน้ำลงคลองกะจะ
2.การติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 6 นิ้ว เพื่อสูบลงบ่อพักเชื่อมกับท่อระบายน้ำซอยถาวรธวัช 1
3.การก่อสร้างบ่อสูบน้ำชั่วคราวบริเวณปากซอยรามคำแหง 24 แยก 8 และติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 3 และ 6 นิ้ว เพื่อเร่งระบายน้ำไปยังซอยรามคำแหง 24 แยก 6
4.จุดก่อสร้างเว้นช่องแบริเออร์เพื่อรับน้ำฝนลงท่อระบายน้ำ ที่ก่อสร้างใหม่เพื่อสูบระบายไปซอยถาวรธวัช 1
5.ล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำซอยรามคำแหง 24 จากแยก 12-18
6.ขณะก่อสร้างผ่านซอยรามคำแหง 24 แยก 18 ต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำหรือเชื่อมท่อระบายน้ำเข้ากับระบบท่อระบายน้ำซอยดังกล่าว
7.ขณะก่อสร้างผ่านซอยรามคำแหง 24 แยก 20 ต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำหรือเชื่อมท่อระบายน้ำเข้ากับระบบท่อระบายน้ำซอยดังกล่าว
8.จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำสนับสนุนการระบายน้ำจุดท่วมขัง ได้แก่ ไดโว่ ขนาด 6 นิ้ว 3 เครื่อง ขนาด 4 นิ้ว 5 เครื่อง และขนาด 3 นิ้ว 2 เครื่อง
.
นายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า ผลงานปัจจุบันของโครงการอยู่ระหว่างการวางท่อระบายน้ำ ซึ่งเป็นท่อขนาดใหญ่ ท่อฝั่งกกท.วางได้แล้ว 200 เมตร ส่วนฝั่งด้านตึกแถวตรงข้าม ม.รามคำแหง วางได้แล้ว 80 เมตร ซึ่งขณะนี้เป็นงานเฉพาะการวางท่อระบายน้ำเพียงอย่างเดียว เพื่อเร่งคืนผิวจราจร ให้น้ำสามารถไหลลงท่อระบายน้ำได้ตามปกติ คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการในเดือนก.พ.68
—————————
ผู้ชมทั้งหมด 707 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 4 ครั้ง