ในที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 2) ประจำปีพุทธศักราช 2567 วันนี้ (10 ก.ค.67)นางสาวเมธาวี ธารดำรงค์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน เสนอญัตติ เรื่อง เรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครเร่งสำรวจความมั่นคงแข็งแรงของต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่สาธารณะของกรุงเทพมหานคร
.
“เนื่องจากพื้นที่กรุงเทพมหานครมีต้นไม้ใหญ่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่กทม.ชั้นใน บางพื้นที่ต้นไม้ที่ปลูกไว้บริเวณทางเท้าเติบโตมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ฟุตบาทลดน้อยลง ประกอบกับในช่วงเวลานี้เป็นฤดูฝน ที่มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ทำให้เกิดเหตุต้นไม้ใหญ่ที่อยู่บริเวณเกาะกลางถนน ทางเท้า พื้นที่สาธารณะล้มในหลายพื้นที่ เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงในพื้นที่เขตปทุมวัน เกิดเหตุต้นไม้ใหญ่ที่มีอายุมากล้มทับรถยนต์ บ้านเรือน และกีดขวางเส้นทางจราจรบ่อยครั้ง จึงเสนอให้กรุงเทพมหานครควรมีการตรวจสอบต้นไม้ใหญ่บนเกาะกลางถนน ทางเท้าและที่สาธารณะ พิจารณาตัดแต่งต้นไม้ที่มีความเสี่ยงต่อการหักโค่น ลดทอนความสูง รวมถึงค้ำยันต้นไม้ใหญ่ให้มีความแข็งแรง รวมทั้งจัดสรรอุปกรณ์ตัดแต่งต้นไม้สำหรับเจ้าหน้าที่อย่างเพียงพอ เพิ่มจำนวนบุคลากรที่มีความรู้เฉพาะทางอย่างรุกขกรในการดูแลรักษาต้นไม้ นอกจากนั้นควรเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมของกทม. โดยเฉพาะบริเวณเกาะกลางถนนที่เป็นพื้นที่โล่ง ตลอดจนขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบนำต้นไม้ไปปลูกในพื้นที่โล่งให้สวยงาม ให้สมกับเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ” ส.ก.ปทุมวัน กล่าว
.
ทั้งนี้ มีสมาชิกสภากรุงเทพมหานครร่วมอภิปรายในญัตตินี้ ประกอบด้วย นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตมีนบุรี กล่าวสนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนต้นไม้ประเภทไม้ดอกหรือไม้ประดับสวยงามจากต่างประเทศเข้ามาปลูกบริเวณรอบถนนและฟุตบาท เพื่อเพิ่มสีสัน ความน่าอยู่ให้กับกทม.ได้ รวมถึง นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตจอมทอง นายณรงค์ รัสมี สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตหนองจอก นางสาวนฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตคลองสามวา และนายนภาพล จีระกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบางกอกน้อย ได้กล่าวสนับสนุนด้านการดูแลความมั่นคงแข็งแรงของต้นไม้ใหญ่ รวมถึงความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชนด้วย
.
นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เมืองกับต้นไม้เป็นสิ่งคู่กัน หากปราศจากต้นไม้ที่มีคุณภาพเมืองก็จะไม่สวยงาม กรณีไม้พุ่มที่รกรุกรังที่อยู่บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการสั่งการให้นำต้นไม้ไปลงยาวไปจนถึงถนนพระราม1 ตลอดทั้งเส้นเรียบร้อยแล้ว และฝ่ายบริหารก็มีนโยบายถนนสวยทุกเขต ที่ตั้งใจจะปรับปรุงถนนให้มีสภาพดี หากส.ก.ท่านใดต้องการให้เข้าไปปรับปรุงถนนสวยพิเศษในเขตของท่าน สามารถเสนอเข้ามาก่อนเพื่อเป็นการนำร่องได้ สำหรับเรื่องต้นไม้ใหญ่หักโค่น กทม.ได้มี MOU ในการดูแล โดยร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง และในขณะนี้กทม.มีเจ้าหน้าที่รุกขกรในการดูแลต้นไม้เพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่มีเพียงแค่ 1 คนแล้ว
.
นายจักรพันธ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ฝ่ายบริหารได้ทำหนังสือเวียนแจ้งไปยังหน่วยงานในกทม. เกี่ยวกับการดูแล รักษา ตัดแต่ง ล้อมย้าย และการโค่นต้นไม้ โดยสั่งการให้สำนักงานเขตทำการแจ้งประชาชนในทราบก่อนล่วงหน้า 7 วันหากต้องมีการล้อมย้ายต้นไม้ และให้สำนักงานเขต สำนักสิ่งแวดล้อม ประเมินความเสี่ยงอันตรายจากต้นไม้ โดยเริ่มต้นที่ถนนวิทยุ เขตปทุมวันก่อนเป็นเส้นแรก และหลังจากการจัดทำ MOU ระหว่างกทม.กับการไฟฟ้านครหลวงแล้วนั้น กทม.มีการอบรมพัฒนาบุคลากรในการปฏิบัติงานด้านรุกขกรรม ให้มีการบำรุงรักษา และตัดแต่งต้นไม้ให้เป็นไปตามหลักวิชาการ มีการทยอยจัดซื้ออุปกรณ์สำหรับส่งเสริมการทำงานของรุกขกร ให้แก่สำนักงานเขตทั้งหมด 50 เขต รวมถึงสำนักงานสวนสาธารณะ นอกจากนั้น ยังมีนโยบายให้สำนักงานเขตและสำนักสิ่งแวดล้อม ทำแผนสำรวจบำรุงดูแลรักษาต้นไม้ ซึ่งจะต้องมีการสำรวจทั้งหมดประมาณ 135,000 ต้น ตอนนี้ได้ดำเนินการสำรวจไปแล้วประมาณ 78,000 ต้น โดยจะต้องมีการสำรวจให้ครบทุกต้นที่อยู่ในพื้นที่กทม. ส่วนปัญหาเรื่องฝนตก พายุลมแรง จะมีหน่วยเร่งด่วน 24 ชั่วโมง พร้อมเข้าไปช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว ท้ายที่สุด ตนมองว่าการให้ความรู้แก่ประชาชนถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสำนักสิ่งแวดล้อมได้จัดทำหลักสูตรอบรมประชาชนให้เข้าใจเกี่ยวกับการดูแลรักษาต้นไม้ได้ด้วยตัวเอง แต่ในกรณีที่มีปัญหาก็สามารถแจ้งให้หน่วยงานเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาได้
—————————
ผู้ชมทั้งหมด 347 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 2 ครั้ง