skip to Main Content
แลกเปลี่ยนความรู้และร่วมมือผลักดันธุรกิจสตาร์ทอัพและเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองอย่างยั่งยืน

แลกเปลี่ยนความรู้และร่วมมือผลักดันธุรกิจสตาร์ทอัพและเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมืองอย่างยั่งยืน

(20 มี.ค.67) นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร หัวหน้าคณะเดินทาง นางชญาดา วิภัติภูมิประเทศ รองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่หนึ่ง พร้อมคณะสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความรู้ในการประกอบธุรกิจเริ่มต้น(Startup) ภายใต้นโยบายเศรษฐกิจของกรุงโซล ณ ศูนย์ประกอบธุรกิจเริ่มต้นที่ดำเนินการโดยเทศบาลกรุงโซล
.
เทศบาลกรุงโซลให้ความสำคัญในการผลักดันวงการสตาร์ทอัพเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบัน มีโครงการให้พื้นที่ออฟฟิศสำหรับสตาร์ทอัพขั้นต้นถึง 1,000 แห่ง และมีการวางแผนตั้งเป้าให้โซล เป็น 1 ใน 5 เมืองระดับท็อปสำหรับสตาร์ทอัพของโลกใน 4 ปี ไปถึงการลงทุนเงิน 1.9 ล้านล้านวอน นอกจากรัฐบาลที่ให้การสนับสนุนสตาร์ทอัพของเกาหลีใต้ ยังมีส่วนจากทางนักลงทุน และเอกชนอื่นๆ ที่ร่วมด้วยเช่นกัน ซึ่งแม้ว่าในปัจจุบัน เกาหลีใต้ยังคงเป็นรองประเทศต่างๆ ในด้านสภาพแวดล้อมบางอย่าง ในอนาคตเกาหลีใต้ขึ้นมาอยู่ในอันดับท็อป ของวงการสตาร์ทอัพระดับโลกได้ ด้วยการผลักดันอย่างเต็มที่ และวางแผนขับเคลื่อนประเทศไปสู่อนาคตของรัฐบาล
.
โดยรัฐบาลเกาหลีใต้มีแผนในการ ‘สร้างเกาหลีใต้ให้เป็นประเทศสตาร์ทอัพ’ และสร้างบรรยากาศของประเทศให้เอื้อต่อการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยจากข้อมูลเกาหลีใต้มีสตาร์ทอัพอยู่ที่ 3 หมื่นกว่าแห่ง ที่มีพนักงานมากกว่า 1 แสนคน ซึ่งเมื่อเทียบกับ 20 ปี ก่อนที่เกาหลีมีสตาร์ทอัพต่ำกว่า 2 พันแห่ง โดยกระทรวง SMEs และ Startups เป็นหน่วยงานบริหารธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ก็มีบทบาทอย่างมากในการสนับสนุน โดยกระทรวงฯ มีนโยบาย และทิศทางในการสนับสนุนสตาร์ทอัพในแต่ละปี เช่น การสร้างโรงงานอัจริยะ 30,000 แห่ง เพิ่มงบการสนับสนุนสตาร์ทอัพในมหาวิทยาลัย เพิ่มศูนย์สนับสนุนบริษัทขนาดเล็กจาก 2 ศูนย์เป็น 10 ศูนย์ ฯลฯ ทั้งในช่วงที่เจอกับวิกฤตของโรคระบาด ทางกระทรวงฯ ไม่เพียงแค่ภาพใหญ่ระดับประเทศ ที่มีการสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่ลงมาที่ระดับเมืองในกรุงโซล เมืองหลวงของประเทศ
.
ช่วงบ่ายวันเดียวกันนั้นคณะผู้แทนสภากทม. เดินทางเข้าประชุมแลกเปลี่ยนความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมในประเด็นการสร้างพื้นที่สีเขียวในเมืองอย่างยั่งยืน ณ สวนป่ากรุงโซล เขตซองดง-กู
.
สวนป่ากรุงโซล(Seoul Forest Park) ถือเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในซองดง-กู กรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ เปิดตลอดทั้งปี ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2548 รัฐบาลเมืองพัฒนาเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่เป็นอันดับสามในเมืองโซล เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีต้นไม้มากกว่า 400,000 ต้นและสัตว์ต่างๆ กว่า 100 ชนิด อุทยานธรรมชาติแห่งนี้ตั้งอยู่ในซองซูดงและครอบคลุมพื้นที่ 1,200 เฮคเตอร์ (3,000 เอเคอร์) พื้นที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นป่าล่าสัตว์ของราชวงศ์ กลายเป็นโรงบำบัดน้ำแห่งแรกของโซลในปี 1908 และต่อมาใช้เป็นทั้งสนามแข่งม้าและสนามกอล์ฟ ปัจจุบันได้กลายมาเป็นสวนสาธารณะที่มีร่มไม้หนาทึบและทะเลสาบ แบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก่ สวนศิลปะวัฒนธรรม (Cultural Art Park), สวนนิเวศวิทยา (Ecological Forest), สวนศึกษาธรรมชาติ (Nature Experiencing Study Field), พื้นที่นิเวศวิทยาชุ่มน้ำ (Wetlands Ecological Field) และ สวนริมแม่น้ำฮันกัง (Hangang Riverside Park)ในส่วนของ สวนศิลปะวัฒนธรรมเป็นที่ตั้งของจัตุรัสป่ากรุงโซล โดยจัดให้ประชาชนเดินพักผ่อน และจัดงานต่างๆ รวมถึงสวนดอกไม้ประจำฤดูกาลที่มักจะมีดอกไม้หลากสีหมุนเวียนมาปลูกอยู่ตลอดทั้งปี ในส่วนของสวนนิเวศวิทยานั้นเป็นพื้นที่สีเขียวที่เชื่อมต่อกับธารน้ำจุงนัง (Jungnang stream) ที่ไหลหล่อเลี้ยงผืนป่า มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ได้สำรวจสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในป่า เช่น กวางเขากำมะหยี่ กวางมูส ชิปส์มั้งก์ เป็ดแมนดาริน และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ก็ยังมีสวนศึกษาธรรมชาติ เดิมเป็นที่บำบัดน้ำเสีย ก่อนจะปรับปรุงให้กลายเป็นสวนพฤกษศาสตร์ สวนแมลง อีกทั้งยังมี พื้นที่นิเวศวิทยาชุ่มน้ำ มีสนามเด็กเล่น หอดูนก สวนดอกไม้ในพื้นที่ชุ่มน้ำ และอ่างเก็บน้ำบรรยากาศร่มรื่น
——————————

ผู้ชมทั้งหมด 391 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 4 ครั้ง

This Post Has 0 Comments
กรุณาเข้าสู่ระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็น
Back To Top