ส.ก.ดอนเมือง ชี้งบชุนชนเข้มแข็งนโยบายยังไม่ชัดทำชุมชนสับสน

(15 ม.ค. 68) นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 2) ประจำปีพุทธศักราช 2568 โดยมี สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง

.

นางกนกนุช กลิ่นสังข์ ส.ก.เขตดอนเมือง หารือ เรื่อง ผู้ว่ารายงานผลการตรวจสอบการดำเนินงานชุมชนเข้มแข็ง โดยกล่าวว่า ชุมชนเข้มแข็งในปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ฝ่ายบริหารและสภากรุงเทพมหานครมีการดำเนินการหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ชุมชนสามารถดำเนินการได้ แต่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตในหลายเขตให้ชุมชนดำเนินโครงการได้ในบางโครงการ แต่โครงการลักษณะเดียวกันบางเขตก็ไม่ให้ดำเนินการตามที่ชุมชนเสนอ โดยให้เหตุผลว่าไม่ได้รับเอกสารที่ใช้ยืนยันว่ารายการไหนสามารถดำเนินการภายใต้โครงการชุมชนเข้มแข็งได้ ทำให้เกิดปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินโครงการ เช่น โครงการลอกท่อระบายน้ำในชุมชน ซึ่งบางชุมชนขึ้นทะเบียนกับกรุงเทพมหานครแต่ยังไม่ยกเป็นที่สาธารณะ เมื่อเกิดปัญหาการเรื่องระบายน้ำล่าช้า กรุงเทพมหานครจึงไม่สามารถเข้าไปเพื่อลอกท่อระบายน้ำได้ ในเรื่องของการใช้งบประมาณในโครงการชุมชนเข้มแข็งจึงไม่ตอบสนองในชุมชน ที่มีกว่า 2,000 ชุมชน ในส่วนของลานกีฬาชุมชนที่เป็นพื้นที่เอกชนสมัยก่อน ของบประมาณในการปรับปรุงเพื่อเป็นลานกีฬาตัวอย่าง แต่ปัจจุบันจะใช้งบประมาณในการปรับปรุงเครื่องเล่นกลับไม่สามารถดำเนินการได้เพราะยังไม่เป็นพื้นที่สาธารณะ

.

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า โครงการงบประมาณชุมชนเข้มแข็งเป็นโครงการตัวอย่างที่ดีในการกระจายอำนาจให้ประชาชนมีสิทธิเลือกการใช้งบประมาณด้วยตนเอง เป็นโครงการที่มีปัญหาค่อนข้างเยอะในช่วงแรกและปรับปรุงให้ดีขึ้นมาโดยตลอด โดยหัวใจหลักคือต้องให้เกิดความคล่องตัวและเป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยชุมชนไหนที่สามารถเป็นต้นแบบในการใช้งบประมาณได้ โดยเอาข้อปัญหามาปรับปรุงให้ดีขึ้นและสร้างรูปแบบเพื่อให้ชุมชนอื่นได้ปฏิบัติตาม

.

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การเรียนรู้ระหว่างเขตนั้นหลายเรื่องสามารถทำได้แล้ว แต่บางเขตยังมีเรื่องที่ไม่ตรงกัน โดยได้มีการประชุมแนวดิ่งเพื่อกำหนดแนวทางเรียบร้อยแล้ว ส่วนในเรื่องตัวอย่างแนวทางของชุมชนนั้นได้มีการดำเนินการหลาย ๆ เขตแล้ว เช่น การขุดลอกท่อของเขตวังทองหลาง การปรับปรุงถนนของเขยสายไหม เป็นต้น ส่วนการให้ชุมชนดำเนินโครงการได้โดยไม่ต้องผ่านสำนักงานเขตนั้นกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาทั้งจากฝ่ายบริหารและสภากรุงเทพมหานคร โดยจะเร่งให้เร็วที่สุดและเป็นไปตามกฎหมาย”

.

จากนั้นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ร่วมแสดงความคิดเห็น ได้แก่ นายสุทธิชัย วีระกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง กล่าวว่า นโยบายชุมชนเข้มแข็งต้องมีขอบเขตให้ชัดเจน เนื่องจากชุมชนแต่ละแห่งนั้นต่างกัน หลายเขตไม่กล้าดำเนินโครงการในการพัฒนาชุมชน เช่น เขตจอมทองจะดำเนินโครงการในพื้นที่ข้างทางรถไฟ ซึ่งเป็นพื้นที่ของการรถไฟโดยสำนักงานเขตแจ้งว่าไม่สามารถดำเนินการได้ จึงขอให้ฝ่ายบริหารแจ้งนโยบายให้ชัดเจน”

.

นายพุทธิพัชร ธรรยาธรรมนนท์ ส.ก.เขตยานนาวา กล่าวว่า เรื่องนี้หลาย ๆ ชุมชนได้ดำเนินการประชุมเลือกครุภัณฑ์หรือที่ดินและสิ่งก่อสร้างแล้ว แต่หลายชุมชนยังไม่สามารถเลือกได้ เนื่องจากไม่สามารถแยกได้ระหว่างครุภัณฑ์และที่ดินและสิ่งก่อสร้าง เช่น ตู้คอนเทนเนอร์ ก่อนที่จะใช้งบชุมชนเข้มแข็งเป็นครุภัณฑ์ แต่พอใช้งบชุมชนกลับกลายเป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จึงทำให้เกิดความสับสนทั้งเจ้าหน้าที่เขตและชุมชน อีกเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนมาคือเจ้าหน้าที่เขตเป็นผู้เลือกครุภัณฑ์ให้กับชุมชนทั้งที่ชุมชนไม่ได้ต้องการ

.

นายพีระพล กนกวลัย ส.ก.เขตพญาไท กล่าวว่า วิธีปฏิบัติในการใช้งบประมาณชุมชนเข้มแข็งนั้นต้องมีการใช้งบประมาณพร้อมกันหรือไม่ เพราะตอนนี้ในบางชุมชนยังไม่สามารถเรียกประชุมชุมชนได้ หรือบางชุมชนดำเนินการไปบางส่วนแล้วแต่เจ้าหน้าที่เขตยังไม่เบิกจ่ายงบประมาณเพื่อรอให้ชุมชนอื่นในเขตดำเนินการให้เรียบร้อยทั้งหมดก่อนจึงจะเบิกจ่ายทีเดียว ทำให้เกิดปัญหาว่าบางชุมชนประชุมเรียบร้อยนานแล้วแต่ไม่ได้รับของตามที่ต้องการ

.

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่า เรื่องของครุภัณฑ์ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้นจะต้องยึดตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง โดยได้มีประชุมแนวดิ่งและกำหนดแนวทางเรียบร้อยแล้ว โดยจะกำชับเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป สำหรับเรื่องที่ชุมชนต้องการจัดซื้อจัดจ้างในสิ่งของหมวดเดียวกันหลาย ๆ ชุมชน จะต้องให้นำมารวมกันเพื่อที่จะได้จัดซื้อจัดจ้างพร้อมกัน โดยในปีงบประมาณ 67 มีการเปิดเวทีชุมชนครบแล้ว 100% ซึ่งมีทั้งชุมชนที่ต้องการใช้งบประมาณและไม่มีความต้องการ โดยกรุงเทพมหานครจะพยายามกวดขัน ให้โปร่งใส และตรงตามความต้องการของประชาชนมากที่สุด

—————————