
“ส.ก.จิรเสกข์” ถามย้ำแผนปรับปรุง สนง.เขตธนบุรี หลังผ่านไป 3 ปีโครงการเดินอืด ร้องแทนเจ้าหน้าที่ กทม. ได้รับผลกระทบกันทั่ว ด้านผู้บริหารยืนยันเดินตามแผนเดิม อยู่ระหว่างทยอยปรับปรุงสถานที่รองรับการโยกย้าย เร่งทำแบบ-ประเมินงบให้ทันปีงบประมาณ
นายจิรเสกข์ วัฒนมงคล ส.ก. เขตธนบุรี ตั้งกระทู้ถามถึงการปรับปรุงสำนักงานเขตธนบุรีแห่งใหม่ว่าตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นับแต่แถลงนโยบายรับตำแหน่งจนถึงปัจจุบัน 3 ปีแล้ว มีเพียงหน่วยงานเดียวที่ย้ายมาคือสำนักงานเลขานุการสภากรุงเทพมหานคร ขอทราบความคืบหน้าการดำเนินงานนโยบายนี้ด้วย
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่านโยบายนี้ยังดำเนินการอยู่ โดยศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร แห่งที่ 2 อยู่ระหว่างการปรับปรุง เพราะต้องเตรียมพื้นที่รองรับหน่วยงานที่จะย้ายมา โดยมีการแก้ไขปรับปรุงห้องต่าง ๆ และทยอยย้ายเข้ามา ส่วนแผนที่จะปรับปรุงอาคารศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เพื่อใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ มีแบบแล้วแต่จะรอให้เป็นผู้บริหารสมัยถัดไป เพราะต้องเตรียมเงินจำนวนมาก แต่ตอนนี้เตรียมการเรื่องสถานที่รองรับคนก่อน
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ขณะนี้สำนักการโยธาอยู่ระหว่างการปรับปรุงอาคารธานีนพรัตน์ ซึ่งตามกำหนดการสัญญาจะเสร็จเดือนธันวาคมปีนี้ จากนั้นหน่วยงานที่อยู่ที่เสาชิงช้าจะย้ายมาที่อาคารธานีนพรัตน์ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2569
ส่วนแผนการปรับปรุงศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาออกแบบ จะได้ประเมินราคาและแบบภายในเดือนกรกฎาคม 2568 โดยตามแผนเริ่มเดือนมีนาคม 2569 และเสร็จประมาณกันยายน 2570 ดังนั้นหากพร้อมที่จะของบประมาณก็สามารถเสนอโครงการเพื่อแปรญัตติได้ในงบประมาณปี 2569 ช่วงเดือนกรกฎาคม และหลังจากที่หน่วยงานในศาลาว่าการกรุงเทพมหานครย้ายมาที่อาคารธานีนพรัตน์แล้ว สำนักงานเขตธนบุรีสามารถที่จะเริ่มปรับปรุง และทำการย้ายมาที่อาคารสำนักเทศกิจต่อไป ตามแผนที่มีการหารือเบื้องต้น
ส่วนสำนักงานเขตธนบุรีจะสามารถเริ่มปรับปรุงอาคารได้ประมาณเดือนตุลาคม 2570 ซึ่งเป็นช่วงปีงบประมาณปี 2570 พอดี ดังนั้น หากจะเริ่มการปรับปรุงในช่วงดังกล่าวก็จะต้องหางบประมาณมาก่อน ซึ่งน่าจะเป็นงบประมาณปี 2569 โดยให้สำนักการโยธา สำนักงบประมาณ และสำนักงานเขตธนบุรีไปหารือกัน หากพร้อมก็สามารถทำเรื่องขอแปรญัตติในเดือนนี้เลย
นายจิรเสกข์ ถามถึงประเด็นที่สำนักงานเขตธนบุรีได้ส่งเรื่องขอจัดสรรงบประมาณปี 69 ไปแล้ว แต่สำนักงบประมาณ ขอให้ปรับลดเนื้องานและระยะเวลาการดำเนินการ หลังจากนั้นไม่ได้รับการบรรจุโรงการเพื่อขอรับงบประมาณปี 69 แต่อย่างใด
นายชัชชาติ ชี้แจงว่า ต้องขอไปดูข้อมูลตัวโปรแกรมอีกครั้ง ซึ่งสำนักงานงบประมาณ ต้องดูความพร้อมของสถานที่ว่าพร้อมหรือไม่ด้วย หากสามารถพัฒนารายละเอียดเพิ่มเติมได้ก็ให้เสนอในส่วนของญัตติปีนี้ โดยตนจะพยามเร่งรัดเรื่องนี้ให้
นายจิรเสกข์ถามอีกว่า โครงการนี้มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของข้าราชการและลูกจ้าง กทม. บางคนต้องวางแผนซื้อบ้าน การเดินทาง การศึกษาของลูกเพื่อรอนโยบายไว้แล้ว แต่การดำเนินการล่าช้า อยากทราบปัญหา อุปสรรคและแนวทางแก้ไข ที่สำคัญอยากให้มีความชัดเจนของนโยบายนี้ด้วย
นายชัชชาติ กล่าวว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการย้าย เพราะคนส่วนใหญ่ก็ไม่อยากย้ายที่ ทั้งในแง่ความคุ้นชินต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดข้อกังวล แต่ก็พยายามสื่อสารและชี้แจงว่าต้องยึดประโยชน์แก่ภาพรวมของประชาชนและ กทม. เป็นหลัก ส่วนข้าราชการเองก็ต้องพยายามเรื่องบรรเทาความไม่สะดวก เช่น จัดรถรับส่งต่าง ๆ หัวใจสำคัญที่ต้องดำเนินการคือการจัดทำพื้นที่ให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งอยู่ในแผนอยู่แล้ว หากเตรียมพื้นที่เรียบร้อยแล้วก็จะสามารถขยับขยายได้ชัดเจนซึ่งอาจใช้เวลาทยอยย้ายและปรับปรุงไปแต่เชื่อว่าเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมข้าราชการและเจ้าหน้าที่น่าจะเข้าใจได้
ผู้ชมทั้งหมด 350 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 2 ครั้ง