สุทธิชัย ยื่นญัตติ ขอ กทม. จัดสวัสดิการลูกจ้างกทม.ที่มีความเสี่ยงภัย
วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สี่ (ครั้งที่ 1) ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยมีนายวิพุธ ศรีวะอุไร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง)
.
นายสุทธิชัย วีระกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง ได้เสนอญัตติ เรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครจัดสวัสดิการให้กับลูกจ้างกรุงเทพมหานครที่ปฏิบัติงานในลักษณะที่มีความเสี่ยงภัยอย่างเหมาะสม โดยให้เหตุผลว่า ลูกจ้างประจำหรือลูกจ้างชั่วคราวของกรุงเทพมหานคร เช่น พนักงานกวาดถนน มีภาระหน้าที่การทำงานที่เสี่ยงภัย โดยบางคนเกิดอุบัติเหตุรถชน ทั้งบาดเจ็บ พิการ และเสียชีวิต ซึ่งหากเกิดความพิการไม่สามารถทำงานได้ก็ต้องออกจากงานไม่มีใครดูแล รวมถึงพนักงานการระบายน้ำแก้ไขปัญหาน้ำท่วมที่ต้องมุดท่อระบายน้ำเพื่อนำสิ่งที่อุดตันท่อระบายน้ำออก และยังมีงานดูแลสวน งานดับเพลิง และงานทางการแพทย์ที่เสี่ยงภัยเช่นกัน
.
นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ส.ก.เขตลาดกระบัง ได้อภิปรายสะท้อนปัญหาที่ได้รับฟังจากลูกจ้างชั่วคราวและลูกจ้างประจำในเขตพื้นที่ต่อสภากรุงเทพมหานครถึงฝ่ายบริหาร กทม. ว่า ให้พิจารณาการเพิ่มอัตราการบรรจุลูกจ้างประจำที่ทำงานมานานเกินกว่า 10 ปีให้มากขึ้น ปรับเพดานเงินเดือนให้สูงขึ้น เพราะบางคนทำงานมานับสิบปีแต่ยังได้เงินเดือนเท่าเดิม เพิ่มจำนวนโบนัสเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานต่อไป เพิ่มวงเงินค่าอาหารทำการนอกเวลา เพราะงานบริการส่วนใหญ่ต้องสลับกันปฏิบัติหน้าที่เพราะมีวงเงินจำกัดส่งผลให้กระทบกับการบริการประชาชน เช่น งานเก็บขนมูลฝอยขยะตกค้าง เพิ่มกรอบอัตรากำลังพนักงานทั่วไปเพื่อรองรับงานให้เหมาะสม เพิ่มกรอบอัตรากำลังพนักงานเก็บขนมูลฝอยเพื่อเป็นกำลังสำรองในการปฏิบัติหน้าที่ มีค่าเสี่ยงภัยของเจ้าหน้าที่ภาคสนาม และสวัสดิการในการเช่าซื้อที่อยู่อาศัยในราคาย่อมเยา โดยตนมองว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เครื่องมือที่ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ และชุดสำหรับปฏิบัติงาน โดยเฉพาะฝ่ายรักษาความสะอาด ฝ่ายระบายน้ำ ที่ต้องมีอุปกรณ์ที่ทันสมัย ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงอาคารสวัสดิการของกทม.ที่ผู้รับจ้างทิ้งงานทำให้ลูกจ้างต้องไปเช่าที่อื่น ทำให้เพิ่มภาระมากขึ้น
.
ด้านนายอำนาจ ปานเผือก ส.ก.เขตบางแค ได้อภิปรายเสริมว่า เงินเดือนของลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราวของกทม. มีรายได้ในการเข้าทำงานครั้งแรกไม่ถึงค่าแรงขั้นต่ำ ขณะที่แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยได้รับความคุ้มครองได้ค่าแรงขั้นต่ำ หากมองที่ปัจจุบัน กทม. มีลูกจ้างจำนวนมากแต่เมื่อถึงคราวเกษียณกับมีเพียงไม่กี่คนเพราะรายได้ที่น้อยไม่พอใช้จึงต้องออกไปทำงานที่อื่น
.
ด้าน รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างการจัดทำร่างระเบียบค่าตอบแทนของผู้ที่ปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยจะนำร่างดังกล่าวให้สมาชิกสภากรุงเทพมหานครร่วมกันพิจารณาภายในกรอบวงเงินงบประมาณ โดยปัจจุบันมีสวัสดิการในการจัดหาชุดปฏิบัติงานเอความปลอดภัย การตรวจสุขภาพ จัดหากรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ นำค่าธรรมเนียมเก็บขนสิ่งปฏิกูลมาจัดสรรเป็นค่าตอบแทนให้แก่ผู้ปฏิบัติงานเฉพาะตำแหน่ง เงินเพิ่มของพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ปฏิบัติงานกู้ภัยเดือนละ 5,000 บาท และการจัดทำโครงการประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มของผู้ปฏิบัติงานประจำรถพยาบาลฉุกเฉิน ส่วนด้านอัตราการบรรจุลูกจ้างประจำได้มีการเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 4.8% หรือประมาณ 930 ราย ด้านสวัสดิการที่อยู่อาศัยได้มีการจัดสรรงบประมาณในการปรับปรุงแล้ว คาดว่าเมื่อปรับปรุงเสร็จจะมีห้องว่างประมาณ 3,963 ห้อง
.
จากนั้นที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับญัตติดังกล่าว และส่งให้ฝ่ายบริหารพิจารณาต่อไป
ผู้ชมทั้งหมด 104 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 28 ครั้ง