วิสามัญ งบ กทม. 69 เข้ม ชี้หน่วยงานต้องจัดสรรบุคลากรให้ตรงความสามารถ ใช้จ่ายงบประมาณให้ตรงจุด

( 7 ส.ค. 68) ณ ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง : นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เปิดเผยว่า ในวันนี้มีการพิจารณาร่างงบประมาณฯ 4 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผลและสำนักเทศกิจ

.

โดยคณะกรรมการวิสามัญฯ มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการฯ จำนวน 27 คณะ เริ่มลงพื้นที่พิจารณางบประมาณของทุกหน่วยงานตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค. และกำหนดให้รายงานผลการพิจารณาต่อคณะกรรมการวิสามัญฯ ระหว่างวันที่ 21 – 27 ส.ค.

.

สำหรับการพิจารณาร่างข้อบัญญัติวันนี้ คกก.วิสามัญฯ ได้ตั้งข้อสังเกตถึงหน่วยงานการพาณิชย์กรุงเทพมหานคร หรือสำนักงานตลาด ว่า บอร์ดบริหารของสำนักงานตลาดอาจมีความสามารถไม่เพียงพอ เนื่องจากตลาดของกรุงเทพมหานครขาดทุนสะสมทุกปี โดยเฉพาะตลาดนัดบางแคภิรมย์ ควรจ้างหน่วยงาน outsourceเข้ามาบริหารจัดการในส่วนต่างๆ และเพิ่มจุดเด่นของตลาดแต่ละแห่งให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น รวมถึงได้สอบถามสาเหตุที่ รฟท. ฟ้องร้องเรียกค่าผิดสัญญาในส่วนของตลาดนัดจตุจักร พร้อมแนะหากตลาดไหนขาดทุนให้เปลี่ยนเป็นเอกชนเช่าพื้นที่แทน

ด้านผู้บริหารสำนักงานตลาด ชี้แจงว่า เนื่องจากเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 ระบาดทำให้ผู้ค้า-ผู้ซื้อลดน้อยลงประกอบกับมติ ครม. ให้ลดหย่อนค่าเช่าพร้อมเยียวยาผู้ค้าในเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ตลาดกรุงเทพมหานครหลายแห่งขาดรายได้ติดต่อกันหลายปี ทางด้านการจ้าง outsource มาบริหารตลาดนั้นทาง สนง.ตลาด มีการดำเนินการอยู่ในหลายๆ แห่ง ส่วนตลาดนัดจตุจักรที่มีประเด็นกับ รฟท. เกิดจาก รฟท. มอบตลาดนัดจตุจักรให้ กทม. เป็นผู้บริหารและเก็บค่าเช่าพื้นที่แทน โดยมติของ ครม. ได้กำหนดราคาค่าเช่าแผงค้าตามที่ รฟท. ร่างสัญญาไว้ต่ำกว่าเดิมมากทำให้รายได้ในส่วนนี้ลดลง และไม่ได้ลงนามในสัญญาเพราะมองว่าต้องเสียเงินมากเกินจำเป็น จึงทำให้ถูกฟ้องร้องดังกล่าว อีกทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยลดน้อยลงตามนโยบายของต่างประเทศ

นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า เดิมตลาดนัดจตุจักรและตลาดมีนบุรีมีกำไรต่อเนื่อง จนถึงประมาณ ปี พ.ศ. 2555 รฟท. นำกลับไปบริหารแต่ผลประกอบการไม่ดีเท่าที่ควรจึงส่งกลับมาให้สำนักงานตลาดกทม.ดูแลโดยให้ ครม.บังคับให้กทม.รับมาตอนปี พ.ศ. 2561 ยอมรับว่าตั้งแต่ตอนนั้นตลาดนัดจตุจักรขาดทุนตลอดจนถึงปัจจุบัน โดยสภากรุงเทพมหานครในขณะนั้น เป็นผู้เสนอควบรวมตลาดนัดจตุจักรกับตลาดมีนบุรีให้มาอยู่กับสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร

.

คกก.วิสามัญฯ ได้ตั้งข้อสังเกตของสำนักปลัดกทม. สำนักงานการเจ้าหน้าที่ไว้ว่า การคัดเลือกผู้อำนวยการต้นหรือตำแหน่งอื่นๆ นั้นมีการแต่งตั้งบุคคลไม่ตรงตามความสามารถหรือคุณวุฒิ ทำให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพต้องเรียนรู้งานใหม่บ่อยครั้ง ทำให้เสียเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ พอเกิดความชำนาญในงานก็ถึงเวลาโอนย้ายอีก อีกทั้งมีการโอนย้ายข้าราชการไม่คำนึงถึงความสามารถ ส่วนเรื่อง Traffy Fondue ที่มีการรายงานผลด้วยภาพ AI เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่ต้องแก้ไขปัญหาพร้อมรายงานผลด้วยความเป็นจริงและต้องรับผิดชอบในการปกปิดข้อมูลผู้ร้องเรียนเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

ด้าน นางฐิติชญาน์ นภาอนันต์วงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานการเจ้าหน้าที่ ชี้แจงว่า การคัดเลือกตำแหน่งผู้อำนวยการต้นนั้น ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้ารับคัดเลือกได้หากคุณสมบัติครบตามกฎ ก.ก. ส่วน Traffy Fondue ได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยจะดำเนินการทางวินัยเจ้าหน้าที่ต่อไป

จากนั้น คกก.วิสามัญฯ ได้ตั้งข้อสังเกตถึงงบประชาสัมพันธ์ ของสำนักงานประชาสัมพันธ์ ว่า บางโครงการตั้งงบประมาณไว้สูงเกินความจำเป็น หน่วยงานควรตั้งงบประมาณให้สมเหตุสมผล รวมถึงต้องจัดทำเอกสารให้ชัดเจน ส่วนทางด้าน สำนักงานกฎหมายและคดี คกก.วิสามัญฯ เร่งให้ดำเนินการปิดคดีที่กรุงเทพมหานครเป็นผู้ฟ้องและผู้ถูกฟ้อง

ด้าน นางรุ่งรัตน์ พุทธพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์ ชี้แจงว่า โครงการประชาสัมพันธ์ของกรุงเทพมหานครเป็นการประชาสัมพันธ์หน่วยงานของกรุงเทพมหานครทั้งหมด จึงได้ตั้งงบประมาณสำหรับสนับสนุนสำนักงานเขตที่จะประชาสัมพันธ์การดำเนินการของหน่วยงานในภาพรวมด้วย

.

จากนั้น คกก.วิสามัญฯ พิจารณาร่างข้อบัญญัติฯ ของสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล และสำนักเทศกิจ

คกก.วิสามัญฯ ได้ตั้งข้อสังเกตต่อสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผลไว้ ว่า มีการของบประมาณไว้น้อยเกินไป ซึ่งที่ผ่านมาสำนักยุทธศาสตร์ถือเป็นแนวหน้าของกทม.

นายวิฑูรย์ อภิสิทธิ์ภูวกุล ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล ชี้แจงว่า สยป.ได้มีการขอจัดตั้งงบประมาณไว้หลายโครงการฯ แต่ไม่ผ่าน เนื่องจากงานส่วนใหญ่เกี่ยวกับระบบจึงต้องนำเข้าคณะกรรมการดิจิทัลของกรุงเทพมหานคร ก่อน ซึ่งนางสาวกนกวรรณ เอี่ยมลิ้ม ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกรุงเทพมหานครได้ชี้แจงว่า งานของ สยป. เป็นงานเกี่ยวกับระบบที่ต้องเข้าคณะกรรมการดิจิทัลฯเพื่อรายงานและส่งสำนักงบประมาณในการจัดทำงบประมาณ แต่เนื่องจากเอกสารไม่ครบสำนักงบฯ จึงไม่สามารถดำเนินการได้

ด้านสำนักเทศกิจ คกก.วิสามัญฯ เสนอให้มีการตั้งงบประมาณการซื้อครุภัณฑ์สำหรับป้องกันตัว เนื่องจากเทศกิจไม่มีสิ่งของป้องกันตัว หวั่นหากเกิดเหตุจะเป็นอันตรายต่อตัวเจ้าหน้าที่ได้

ผู้ชมทั้งหมด 224 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 10 ครั้ง