ติดตามปัญหาศูนย์กระจายสินค้า ส่งผลกระทบประชาชนพื้นที่ทวีวัฒนา กทม.เร่งควบคุมตามกรอบกฎหมายสูงสุด

.

ในที่ประชุม นายยิ่งยงค์ จิตเพียรธรรม ส.ก.เขตทวีวัฒนา ได้ยื่นกระทู้ถามสด เรื่อง ขอทราบการดำเนินการศูนย์กระจายสินค้าในพื้นที่เขตทวีวัฒนา สมัยประชุมที่แล้วได้เคยยื่นญัตติเรื่องนี้ไปแล้วแต่ยังไม่ทราบความคืบหน้า ซึ่งผู้ว่าฯแจ้งว่าภายใน 3 เดือนจะได้คำตอบ แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นความคืบหน้าและประชาชนยังได้รับความเดือดร้อนอยู่ มีรถบรรทุกจอดกีดขวางทางสัญจรจำนวนมาก

.

“เขตทวีวัฒนามีบริษัทในพื้นที่ขนส่งเอกชนกว่า 200 บริษัท แต่ละบริษัทมีรถบรรทุกมากกว่า 10 คัน มีการขนส่งสินค้าตลอดทั้งวัน ทำให้เกิดปัญหาจราจรและเกิดมลภาวะฝุ่นสูง ติด 1 ใน 10 ทุกครั้ง อยากให้ผู้ว่าฯกทม.เร่งแก้ไขโดยด่วน หรือติดตั้งด่านชั่งน้ำหนักรถบรรทุกเพื่อตรวจสอบรถบรรทุกที่อาจมีการบรรทุกน้ำหนักเกินเข้ามาในพื้นที่กทม.ด้วย” ส.ก.ยิ่งยงค์ กล่าว

.

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า พื้นที่นี้เป็นที่รวบรวมและกระจายสินค้าที่สำคัญของกทม.มานานแล้ว บางส่วนคงมีมาก่อนที่พระราชบัญญัติการผังเมืองจะออก และมีผู้ประกอบการที่มาภายหลังด้วย ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ผิดเพราะพื้นที่นี้ห้ามทำเป็นศูนย์กระจายสินค้า ทางออกของปัญหาอย่างแรกกทม.อาจหาพื้นที่เพื่อทำเป็นศูนย์กระจายสินค้าเองแต่จากการสำรวจยังไม่พบพื้นที่ของกทม. สองคือการเชิญบริษัทมาร่วมทำศูนย์กระจายสินค้า ซึ่งการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าต้องหาทั้งพื้นที่และหาเอกชนมาลงทุน เพราะเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุด โดยขณะนี้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม อยู่ระหว่างการศึกษา ขณะเดียวกันสำนักงานเขตต้องเข้มงวดเรื่องการใช้อาคารผิดกฎหมายด้วย

“ผู้ประกอบการที่มาก่อนกฎหมายผังเมืองควบคุมสามารถอยู่ได้ แต่ที่มาที่หลังเราพยายามผลักดันภายใต้ขั้นตอนของกฎหมายและเขตก็ไม่ได้ปล่อยปละละเลย ยังพยายามดำเนินการตลอดมา กรมการขนส่งทางบกที่รับผิดชอบโดยตรงได้พยายามหาพื้นที่อยู่ กทม.จะรับไปประสานงานเพราะเราคงไม่ได้ทำเองแต่จะประสานให้กรมการขนส่งทางบกดำเนินการ สำหรับการชั่งน้ำหนักรถบรรทุกเรามีการจัดหน่วยเคลื่อนที่และจับตรวจอยู่ แต่ด่านถาวรคงต้องหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการอีกครั้ง ”ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว

.

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชกากรรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำหรับเรื่องนี้อยู่ในความดูแลของกรมการขนส่งทางบก ศูนย์กระจายสินค้านี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 205 ไร่ กรมฯได้รับทราบปัญหาและเจรจาให้ผู้ประกอบการย้ายไปคลองหลวงแล้วแต่ยังไม่ได้รับความร่วมมือ ทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร จึงได้ศึกษาและสำรวจหาพื้นที่ที่เหมาะสม ทั้งจุดที่พระราม 2 และพื้นที่นครชัยศรี จ.นครปฐม

.

นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สำนักงานเขตได้พยายามแก้ปัญหาและเชิญผู้ประกอบการมาพูดคุย เบื้องต้นพบว่ามีการทำไม่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร เขตจึงได้พยายามบังคับใช้กฎหมายให้ได้สูงสุด จากอาคารทั้งหมด จำนวน 244 ราย รื้อย้ายไปแล้ว 91 ราย คงเหลือ 153 ราย ซึ่งเขตพยายามทำความเข้าใจให้ผู้ประกอบการทราบระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย และเขตได้ลงพื้นที่ไม่ให้มีการจอดรถกีดขวางประชาชนด้วย

——————–