skip to Main Content
สภา กทม. เห็นชอบขยายเก็บค่าธรรมเนียมขยะออกไปอีก 1 ปี ลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน

สภา กทม. เห็นชอบขยายเก็บค่าธรรมเนียมขยะออกไปอีก 1 ปี ลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน

ในที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 2) ประจำปีพุทธศักราช 2567 วันนี้ (10 ก.ค.67) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เสนอญัตติ ร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย ตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….
.
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงค่าธรรมเนียมให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์และภาระค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน และเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนร่วมมือลดและคัดแยกมูลฝอยที่แหล่งกำเนิดอย่างจริงจัง จึงเห็นสมควรปรับปรุงข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครว่าด้วยค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย จึงจำเป็นต้องตราข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครนี้ และเห็นควรให้ขยายการเก็บค่าธรรมเนียมขยะออกไปอีก 1 ปี เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน ซึ่งหากคิดเป็นจำนวนเงินหากยังเก็บอัตราเดิม กรุงเทพมหานครจะมีรายได้ 169 ล้านบาท หากเก็บในอัตราใหม่จะได้ประมาณ 676 ล้านบาท หากจัดเก็บค่าธรรมเนียมรายปีจาก 20 บาทเป็น 80 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 4 เท่าในเวลานี้ ย่อมส่งผลกระทบกับประชาชนอย่างแน่นอน และไม่เป็นการสร้างแรงจูงใจให้กับประชาชนผู้คัดแยกขยะอีกด้วย
.
จากนั้น สมาชิกสภากรุงเทพมหานครได้ร่วมอภิปรายในญัตตินี้ คือ นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตจอมทอง กล่าวว่า ค่าธรรมเนียมฯ เดิม ใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 แก้ไขในปี พ.ศ.2548 และเลื่อนการพิจารณาเพิ่มค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลฯ มา 5 ปีแล้ว จึงต้องการให้ผู้บริหารกรุงเทพมหานครชี้แจงโดยละเอียด เพื่อให้ทราบข้อดีของการเพิ่มค่าธรรมเนียมฯ เพื่อประกอบการพิจารณาให้ผ่านญัตติในครั้งนี้ รวมถึงการพิจารณากฎหมายเพื่อบังคับใช้ควบคุมให้ครัวเรือนและผู้ประกอบการชำระค่าธรรมเนียมการจัดเก็บขยะในรูปแบบต่างๆ ให้ครอบคลุมครบถ้วน เนื่องจากส่งผลกระทบกับเรื่องงบประมาณ รายได้ประจำปีของกรุงเทพมหานคร
.
นายสัณห์สิทธิ์ เนาถาวร สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตวัฒนา ให้ข้อสังเกตว่า การเก็บอัตราค่าธรรมเนียมมูลฝอยทั่วไปรูปแบบใหม่ถือว่ามีความเหมาะสม และเป็นเรื่องที่ดีเพราะมีการวัดปริมาณของขยะในการจัดเก็บเป็นหน่วยลิตรต่อวัน ผู้ที่ทิ้งขยะมากสร้างขยะให้เมืองมากก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในอัตราที่สูง แต่ขอฝากข้อพิจารณาให้ผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ในเรื่องการคำนวณส่วนได้-เสีย จากค่าใช้จ่ายในการให้บริการของกรุงเทพมหานครให้ถี่ถ้วน รวมถึงให้ตั้งกรอบระยะเวลาของการสร้างแรงจูงใจจากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมฯ ในอัตราดังกล่าวให้ชัดเจน เนื่องจากมีผลกระทบกับงบประมาณด้านการคลังของกรุงเทพมหานคร รวมถึงให้มีการประเมินผล และตรวจสอบประโยชน์ว่าประชาชนคัดแยกขยะจากต้นทางเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่
.
นายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตยานนาวา กล่าวว่า ขอให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้อธิบายถึงหลักการเหตุผลให้ชัดเจนเพื่อประกอบการพิจารณาว่าสภากรุงเทพมหานครควรเห็นชอบให้ขยายการบังคับใช้อัตราค่าธรรมเนียมฯ อัตราใหม่ไปอีก 1 ปีหรือไม่ อย่างไร และทำให้กรุงเทพมหานครเสียประโยชน์มากขึ้นหรือไม่
.
จากนั้น ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครมีมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย ตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. โดยเป็นการพิจารณา 3 วาระรวด และจะประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
📍ตั้งคกก.วิสามัญร่างข้อบัญญัติค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย
.
จากนั้น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เสนอญัตติ ร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย ตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ. ….
.
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการปรับปรุงค่าธรรมเนียมให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนร่วมมือลดและคัดแยกมูลฝอยที่แหล่งกำเนิดอย่างจริงจัง และสอดคล้องกับสภาวการณ์และภาระค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน ซึ่งเนื้อหาหลักที่แตกต่างระหว่างปี พ.ศ. 2546 กับปี พ.ศ.2562 คือการจัดเก็บค่าธรรมเนียมจะมีอัตราของปริมาณขยะประกอบด้วย เป็นส่วนสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ที่ทิ้งขยะจำนวนน้อย ไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน หรือผู้ที่คัดแยกขยะต้นทางจากครัวเรือนได้มากกว่า รวมถึงเก็บอัตราค่าธรรมเนียม กับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีจำนวนขยะมากในแต่ละวันได้อย่างเหมาะสม ซึ่งอัตราดังกล่าวยังเป็นการส่งเสริมการเปลี่ยนพฤติกรรมของคนให้คัดแยกขยะอีกทางด้วย ซึ่งการคาดการณ์รายได้จากการจัดเก็บอัตราค่าธรรมเนียมใหม่จะทำให้กทม.สามารถจัดเก็บรายได้จากผู้ประกอบการรายใหญ่ได้มากขึ้น จาก 166 ล้านบาท เป็น 664 ล้านบาท ซึ่งหัวใจของการจัดเก็บอัตราใหม่นี้ คือจะเก็บเงินกับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีขยะสู่เมืองในอัตราที่สูงขึ้น และหากใครช่วยคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางก็จะได้ลดอัตราค่าธรรมเนียมอย่างต่อเนื่อง โดยร่างข้อบัญญัตินี้ไม่ได้ตั้งกรอบระยะเวลาไว้ เนื่องจากต้องการสร้างจิตสำนึกของประชาชนอย่างต่อเนื่องและสร้างความตื่นตัวให้กับเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครในการให้บริการประชาชน
.
สำหรับสาระสำคัญอัตราค่าธรรมเนียมที่ปรับปรุงใหม่ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ปริมาณไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน ค่าเก็บและขน 30 บาท ค่ากำจัด 30 บาท รวม 60 บาท (เดิม 20 บาท) กลุ่มที่ 2 เกิน 20 ลิตรต่อวัน แต่ไม่เกิน 500 ลิตรต่อวัน (เดิม 40 บาท/20 ลิตร) และเกิน 500 ลิตรต่อวันแต่ไม่เกิน 1 ลบ.ม. ต่อวัน (เดิม 2,000 บาท) ค่าเก็บและขน 60 บาท/20 ลิตร ค่ากำจัด 60 บาท/20 ลิตร รวม 120 บาท/20 ลิตร กลุ่มที่ 3 เกิน 1 ลบ.ม.ต่อวัน (เดิม 2,000 บาท/1 ลบ.ม.) ค่าเก็บและขน 3,250 บาท/1 ลบ.ม. ค่ากำจัด 4,750 บาท/1 ลบ.ม. รวม 8,000 บาท/1 ลบ.ม.
.
“ ปีที่ผ่านมากรุงเทพมหานครยังไม่มีการบังคับใช้ข้อบัญญัติดังกล่าว แต่กรุงเทพทหานครมีโครงการ “ไม่เทรวม” ซึ่งสามารถลดขยะไปได้กว่า 10 % จากความร่วมมือของประชาชน ดังนั้นหากเริ่มการบังคับใช้ข้อบัญญัติดังกล่าว ก็คาดการณ์ว่าจะสามารถลดขยะของกรุงเทพมหานครได้ปริมาณมหาศาลและสร้างรายได้ให้กับกรุงเทพมหานครจากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมอีกทางด้วย” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าว
.
จากนั้น นายพีรพล กนกวลัย สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตพญาไท ได้ร่วมอภิปรายในญัตตินี้ด้วย
.
ทั้งนี้ ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาญัตติขอความเห็นชอบ ร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ. …. จำนวน 19 ท่าน กำหนดเวลาพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน
—————————

ผู้ชมทั้งหมด 957 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 14 ครั้ง

This Post Has 0 Comments
กรุณาเข้าสู่ระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็น
Back To Top