
“เนติภูมิ” เสนอ แก้ข้อบัญญัติใส่นิยาม “สายสื่อสาร” ในข้อบัญญัติรักษาความสะอาดฯ เพื่อแก้ปัญหาสายสื่อสารรุงรังอย่างเป็นระบบเพื่อการแก้ไขที่ยั่งยืน
วันที่ 2 กรกฎาคม 2568 การประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 1) พ.ศ. 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา นายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย ส.ก. เขตบึงกุ่ม เสนอญัตติขอให้กรุงเทพมหานครวางแผนการแก้ไขปัญหาสายสื่อสารให้ครอบคลุมทุกพื้นที่อย่างเป็นระบบ โดยกล่าวว่า กรุงเทพฯ มีปัญหาซึ่งเราพูดต่อเนื่องไม่ว่าจะยุคสมัยไหนมาเป็น 10 ปีแล้วในเรื่องของสายสื่อสารซึ่งไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม สิ่งเหล่านี้เรามองไปถึงเรื่องของการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและปรับทัศนียภาพให้สวยงาม และสิ่งที่สำคัญคือการสร้างเมืองที่ปลอดภัย
นายเนติภูมิ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันกรุงเทพฯ มีจำนวนสายสื่อสารมากกว่า 4,000,000 เส้น ติดตั้งอยู่บนเสาไฟฟ้า มากกว่า 150,000 ต้นทั่วกรุงเทพฯ จากการสำรวจพบว่ามากกว่าร้อยละ 70% เป็นสายสื่อสารที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว แน่นอนว่าก่อให้เกิดปัญหาเสี่ยงอัคคีภัยอุบัติเหตุจากสายสื่อสารที่ห้อยต่ำ รวมถึงภาพลักษณ์เมืองและทัศนียภาพเสื่อมโทรม และการบริหารจัดการเมืองลำบาก ต้องขอบคุณนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่วันนี้การแก้ไขดังกล่าวเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพสายสื่อสารในหลายจุด, การผลักดันโครงการถนนไร้สาย ประสานกับ กสทช. การไฟฟ้า และเอกชน, เปิดรับแจ้งปัญหาผ่าน Traffy Fondue และมีการตั้งเป้าหมายลดสายไฟรกในปี 2567
แต่ปัญหาของกรุงเทพฯ คือเราไม่ได้มีหน้าที่ไปตัดสายสื่อสารได้เอง แต่ต้องอาศัยอำนาจบริหารราชการกรุงเทพฯ มาตรา 89 และ 90 รวมไปถึงข้อบัญญัติว่าด้วยการรักษาความสะอาดฯ พ.ศ. 2537 เป็นไปได้หรือไม่ว่าหากเราออกข้อบัญญัติใหม่ว่าด้วยการควบคุมสายสื่อสาร เรากำหนดนิยามคำว่าสายสื่อสารเข้าไปในข้อบัญญัติ เพื่อให้เราสามารถบริหารจัดการสายสื่อสาร
“ปัจจุบันต้องบอกว่าเขตก็ทำอยู่แล้วแต่ประชาชนไม่ทราบ ว่าสายสื่อสารที่ร่วงหล่นลงมา ห้อยลงมากระทบความเป็นอยู่ของพวกเขาจะต้องไปแจ้งใคร แจ้งไปยังการไฟฟ้าบางทีก็ไม่รับ แจ้งมายังเขต เขตก็บอกว่าไม่ใช่อำนาจและหน้าที่ จะดีกว่าหรือไม่ ถ้าเราแก้ไขข้อบัญญัติและใส่นิยามของคำว่าสายสื่อสารลงไป จะได้ทำให้สำนักงานเขตทำงานได้ง่ายขึ้น” นายเนติภูมิ กล่าว
นายเนติภูมิ กล่าวอีกว่า หากอำนาจรื้อถอนสายสื่อสารที่เป็นของเอกชนเราไม่สามารถทำได้ เราควรเปลี่ยนเป็นอำนาจแจ้งให้รื้อถอนสาย รวมถึงตั้งกองทุนจัดระเบียบสาธารณูปโภค และใช้ Smart City ตรวจสอบเพื่อแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
“ปัญหาสายสื่อสารรุงรังเป็นภัยต้องแก้ไขเร่งด่วน การแก้ไขข้อบัญญัติเป็นกุญแจระยะสั้น ต้องเสริมสร้างความร่วมมือทุกฝ่าย มุ่งสู่เมืองปลอดภัยทัศนียภาพดีคุณภาพชีวิตยั่งยืน” นายเนติภูมิ กล่าว
ด้านนายนริสสร แสงแก้ว ส.ก. เขตบางเขน กล่าวว่า ในพื้นที่ตนมีปัญหาดังกล่าวหลายจุด แต่ก็ได้รับการแก้ไขปัญหาไปพอสมควรแล้ว ตนอยากเสริมเรื่องฝาท่อสายสื่อสารบนพื้นดินที่เป็นปัญหาอย่างมากเพราะประชาชนไม่ทราบว่าเป็นของบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT จึงมีการแจ้งมาที่เขต และเขตต้องติดต่อไปยัง NT ซึ่งใช้ระยะเวลาในการแก้ไขนาน จึงอยากฝากเรื่องนี้ด้วย
ทางด้านนางสาวเมธาวี ธารดำรงค์ ส.ก. เขตปทุมวัน กล่าวว่า ในเขตปทุมวันก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน เรื่องฝาท่อสื่อสารที่กลางถนนในซอย ซึ่งฝาท่อชำรุดบ่อยมาก ทางเขตแก้ไขให้เบื้องต้นแต่รถก็วิ่งทั้งวันทั้งคืน เราจึงได้สื่อสารไปยังผู้รับผิดชอบโดยตรง แต่แก้ไขช้ามากใช้ระยะเวลาสองถึงสามเดือนกว่าจะมาแก้ไข รวมทั้งตู้ไฟที่อยู่ตามถนนปัจจุบันส่วนใหญ่ได้ยกตู้ออกไปแล้ว แต่ฐานของตู้ยังอยู่ส่งผลกระทบให้ มีประชาชนผู้ใช้ทางเท้าสะดุด บางคนเอาขยะไปทิ้งข้างใน จึงอยากขอฝากผู้บริหารไปยังผู้ที่รับผิดชอบให้เร่งแก้ไขโดยด่วน
นายประพฤทธ์ หาญกิจจะกุล ส.ก. เขตห้วยขวาง กล่าวว่า ปัญหาของสายสื่อสารเป็นทั่วกรุงเทพฯ สำนักงานเขตค่อนข้างที่จะปล่อยปะละเลยไม่ค่อยจะสนใจ เรื่องปัญหาสาธารณูปโภค ซึ่งอันที่จริงหน่วยงานต่างๆ ต้องเข้ามาขออนุญาตกับทางสำนักงานเขต แต่ที่ผ่านทางเขตไม่เคยสนใจ จึงอยากฝากทางผู้บริหารกวดขันกับสำนักงานเขตด้วย
นายกิตติพงศ์ รวยฟูพันธ์ ส.ก. เขตทุ่งครุ มองว่าฝ่ายบริหารควรทำความเข้าใจกับประชาชนว่าสายส่วนใหญ่เป็นสายสัญญาณ เพราะมีประชาชนติดต่อตนมาหลายคน เวลามีสายสื่อสารร่วงขาดแล้วบอกว่าไม่กล้าจับกลัวไฟช็อต ซึ่งอันที่จริงคือสายสื่อสาร
นายนภาพล จีระกุล ส.ก. เขตบางกอกน้อย กล่าวว่า กรุงเทพฯ มีข้อตกลงกับหน่วยงานว่าต้องมีการขออนุญาตในการติดตั้ง เมื่อรู้ข้อมูลเขตจะต้องไปตรวจสอบการดำเนินการว่ามีการขออนุญาตหรือไม่ จึงอยากฝากฝ่ายบริหารว่าทุกเดือนจะมีการประชุมชุมชนของเขต ให้ประสานงานกับประชาชนในพื้นที่ว่าหากมีการเดินสายสื่อสารตรงไหนให้แจ้งให้เขตทราบด้วย หากประชาชนมีส่วนร่วมเขตเอาจริงเอาจังปัญหาตรงนี้อาจจะลดไปได้
นายชัชชาติ กล่าวว่า 80% ของสายสื่อสาร คือสายที่ไม่ได้ใช้แล้วแต่ปัญหาคือเราไม่ทราบว่าสายไหนเป็นสายที่ไม่ได้ใช้แล้วจึงไม่สามารถจะไปตัดแบบสุ่มได้ เพราะอาจจะเกิดความเสียหายจึงต้องเป็นหน้าที่ของผู้ประกอบการโดยกำกับดูแลของ กสทช. หากประชาชนทราบว่าหน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ประชาชนช่วยกันเร่งรัดให้ถูกหน่วยงาน หากเราเร่งรัดไปถูกหน่วยงานก็จะมีความกระตือรือร้นช่วยกันแก้ปัญหา
นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สายสื่อสารต้องได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. ก่อน จากนั้นผู้ประกอบการจะขออนุญาตพาดสายกับการไฟฟ้านครหลวง โดยไม่ได้รื้อถอนสายเก่าจึงทำให้เกิดปัญหาสายรกรุงรัง ซึ่งจากนี้ไปการพาดสายบนถนนทางหลวงท้องถิ่นที่ขึ้นทะเบียนแล้วต้องขออนุญาต กทม. ด้วยซึ่งเราได้ประสานกับการไฟฟ้านครหลวงสร้างแพลตฟอร์มให้ขอทีเดียวได้ทั้งสองทาง เงื่อนไขต่างๆ เราสามารถใส่เข้าไปในใบอนุญาตได้
ผู้ชมทั้งหมด 244 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 2 ครั้ง