
”สภา กทม.“ เห็นชอบ ตั้ง คกก.วิสามัญศึกษาการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ “ส.ก.พุทธิพัชร์” มองเป็นปัญหาใหญ่ควรหาทางออกเพื่อให้อยู่รอดกับการที่ค่าไฟแพงขึ้น “ส.ก.นภาพล” หนุน ติดตั้งในโรงเรียน พร้อมทวงถามความคืบหน้า MOU กับ กฟผ. ด้าน “รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์” อยู่ระหว่างการติดตั้งคาดเสร็จปีหน้าก่อนเดินหน้าเฟสต่อไป
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 เม.ย. 2568 การประชุมสภากรุงเทพมหานครพิจารณาญัตติขอให้สภากรุงเทพมหานครตั้งคณะกรรมการวิสามัญศึกษาและพิจารณาการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ของกรุงเทพมหานคร ที่เสนอโดยนายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ ส.ก.เขตยานนาวา
.
นายพุทธิพัชร์ กล่าวว่า จากที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนรวมถึงข้าราชการในพื้นที่เขตต่างๆ ว่า ตอนนี้ค่าไฟแพงมาก ซึ่งฝ่ายบริหารได้พิจารณาที่จะติดตั้งโซลาร์เซลล์ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล สถานีบำบัดน้ำเสีย หรือสำนักงานเขต เพื่อเป็นการช่วยเหลือและทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ อย่างมีประสิทธิภาพ
.
นายพุทธิพัชร์ กล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้เราได้ขอความคืบหน้าในการก่อสร้างการติดตั้งระบบโซลาร์รูฟบนหลังคาของ กทม. ทั้งสามหน่วยงาน แต่จนถึงวันนี้ยังถูกเบรกไว้อยู่เนื่องจากยังหาทิศทางที่แน่ชัดในการจัดทำไม่ได้ ปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่เราต้องหาทางออกเพื่อให้ กทม. อยู่รอดกับการที่ค่าไฟแพงมากขึ้น เพราะเราเป็นเขตปกครองพิเศษที่ใช้ไฟเยอะเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าเหมาะสมและรวดเร็ว จึงขอให้สภา กทม. ตั้งคณะกรรมการวิสามัญศึกษาและพิจารณาการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อที่จะหาแนวทางให้ใช้พลังงานทดแทนที่สะอาด รวมถึงการลดภาระของ กทม. ในระยะยาว
.
ด้านนายนภาพล จีระกุล ส.ก. เขตบางกอกน้อย กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าศึกษา แต่เรื่องดังกล่าวนั้นมีมานานแล้ว ตนเคยคุยกับกทม.ตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วแต่ไม่มีใครสนใจ ตนมองว่าโรงเรียนในพื้นที่ กทม. สมควรทำโซลาร์รูฟ ในสมัยก่อนที่เรามองว่าแพงนั้นอันที่จริงแพงที่แบตเตอรี่ แต่หากตั้งแผงบนหลังคาและแปลงพลังงานในอินเวอร์เตอร์ไปใช้งานในครัวเรือน ราคาไม่สูงและคุ้มทุนแน่นอน หากคณะกรรมการวิสามัญชุดนี้เกิดขึ้น เรียกหน่วยงานเข้ามาให้ความรู้ เรียกฝ่ายบริหารเข้ามาดำเนินการ ตนมองว่าเป็นรูปธรรมขึ้นแน่นอนแทบไม่ต้องทำอะไร เพราะโซลาร์รูฟเกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ใช่พึ่งเกิด ต่างประเทศเต็มไปหมดแต่ทำไมประเทศเราไม่เริ่มทำ
.
นายนภาพล ยังตั้งคำถามถึงการเซ็น MOU กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไรบ้าง นายจักกพันธุ์ ชี้แจงว่า เราเซ็น MOU ไปเรียบร้อยแล้ว โดยแบ่งการทำงานออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่การติดตั้งที่โรงควบคุมคุณภาพน้ำ 8 แห่งใน กทม. ซึ่งตามแผนจะแล้วเสร็จภายในปี 2569 หลังจากนั้นจะเริ่มระยะที่เหลือต่อไป
.
จากนั้นที่ประชุมเห็นชอบกับญัตติดังกล่าว และเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมการวิสามัญจำนวน 11 คน ประกอบด้วย 1.นายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ 2. นายกฤษฏ์ คงวุฒิปัญญา 3.นายปวิน แพทยานนท์ 4.นายอนุรักษ์ เลิศวัฒนาไพบูลย์ 5.น.ส.เมธาวี ธารดำรงค์ 6.นายณรงค์ศักดิ์ ม่วงศิริ 7.นายณภัค เพ็งสุข 8.นายวิรัช คงคาเขตร 9.นายอานุภาพ ธารทอง 10.นายมนัสวี อารยะศิริ และ 11.นายสมบัติ วนิชประภา โดยกำหนดระยะเวลาพิจารณาศึกษาภายใน 180 วัน
ผู้ชมทั้งหมด 95 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 14 ครั้ง