
สภา กทม. – สภาโซล เดินหน้าหารือความร่วมมือในอนาคต แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีคมนาคมเพื่อเมืองที่ยั่งยืน
วันที่ 15 ก.ค. 68 นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร มอบหมายให้นายเนติภูมิ มิ่งรุจิลารัย รองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่หนึ่ง ต้อนรับนายลี ซอง แบ ประธานสภากรุงโซล และคณะผู้แทนสภากรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ในโอกาสเยือนสภากรุงเทพมหานคร กระชับความสัมพันธ์สภาบ้านพี่เมืองน้องโดยมีสมาชิกสภากรุงเทพมหานครร่วมให้การต้อนรับ ณ ห้องพิธีการ อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง
.
นายเนติภูมิ กล่าวว่า ในนามของสภากรุงเทพมหานคร ตนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับท่านและคณะฯ ในโอกาสเยือนสภากรุงเทพมหานครในครั้งนี้ เป็นเวลากว่า 18 ปี ที่สภาทั้งสองมีการกระชับความสัมพันธ์ หารือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันต่อเนื่องตลอดมา กรุงโซลเป็นเมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเกาหลีใต้ซึ่งมีความสำคัญในฐานะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม และการคมนาคมของประเทศ เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และที่สำคัญปัจจุบันกรุงโซลเป็นศูนย์กลางทางเทคโนโลยีด้านการบันเทิงที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งตนเชื่อว่าการหารือระหว่างสภาเมืองทั้งสองในวันนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เรียนรู้และสร้างความเข้าใจร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรม รวมถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเมืองให้เป็นประโยชน์ นำมาซึ่งการส่งเสริมมิตรภาพอันแน่นแฟ้นและหารือผลักดันการแลกเปลี่ยนความร่วมมืออันเป็นประโยชน์ระหว่างกันในอนาคต
.
นายลี ซอง แบ กล่าวว่า สภากรุงเทพมหานครเป็นสถานที่แรกที่คณะฯ ต้องการมาเยี่ยมเยือนภายหลังการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เพื่อแสดงออกว่าสภากรุงโซลนั้นต้องการกระชับความสัมพันธ์กับสภากรุงเทพมหานครมาโดยตลอด ประเทศไทยและเกาหลีมีความสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปมาทั้งสองประเทศกว่าปีละ 2.5 ล้านคน กรุงเทพมหานครเป็นเมืองนานาชาติเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง โดยกรุงโซลมีเป้าหมายในการเป็น TOP 5 ของเมืองระดับโลกจึงเดินทางมาแลกเปลี่ยนประสบกาณ์การทำงานกับกรุงเทพมหานครในครั้งนี้ ทั้งกรุงโซลและกรุงเทพมหานครต่างเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นและยังมีความสามารถในการพัฒนาเมืองอย่างรวดเร็ว ตนหวังว่าทั้งสองเมืองจะร่วมมือกันพัฒนาเมืองทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ด้านคมนาคม หรือด้านวัฒนธรรมให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างสภาทั้งสองจะยังคงอยู่ตลอดไป
.
นายเนติภูมิ กล่าวต่อว่า เทคโนโลยีที่ใช้จำกัดรถเก่าในการเข้าพื้นที่เขตกรุงโซลโดยใช้กล้องตรวจจับแผ่นป้ายทะเบียน เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นควันในเมืองนั้นเป็นเทคโนโลยีที่ดีมาก หากนำมาใช้ในกรุงเทพมหานครจะเป็นการช่วยลดปัญหาฝุ่น PM2.5 และปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาฝุ่นในเมืองได้อย่างดีเยี่ยม โดยจะมีการจำกัดรถเก่าสามารถเข้าพื้นที่เขตกรุงโซลได้เฉพาะบางวันเท่านั้น
.
คณะฯ ผู้แทนชี้แจงว่า ปัจจุบันรถเก่าที่จะเข้ามาภายในกรุงโซลจะมีการจัดพื้นที่สำหรับจอดรถไว้ให้อย่างเป็นระเบียบ และมีการผลิตบัตรโดยสารที่สามารถใช้สัญจรผ่านระบบขนส่งสาธารณะในกรุงโซลได้ทุกอย่าง มีส่วนลดให้กับนักเรียนนักศึกษาและเมื่อยิ่งใช้บัตรโดยสารมากเท่าไหร่ก็ยิ่งจะมีส่วนลดมากขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้รถสาธารณะมากขึ้นเพื่อลดมลภาวะทางถนน
.
จากนั้นนายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง กล่าวชื่นชมวัฒนธรรมของเกาหลีใต้ที่มีอิทธิพลกับประเทศไทยเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็น เด็ก เยาวชน หรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่ต่างได้รับอิทธิพลจากทั้ง K-Pop ซีรีย์ ภาพยนต์ รวมถึงการแต่งกายโดยเฉพาะชุดประจำชาติอย่างชุดฮันบกที่เป็นที่นิยมมากในหมู่หนุ่มสาว หากสมาชิกสภากรุงเทพมหานครได้มีการแต่งชุดดังกล่าวร่วมกับผู้แทนคณะฯ คงเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่ง
.
นายซุง เบย์ ลี กล่าวทิ้งท้ายว่า ภายในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ สาธารณรัฐเกาลีจะมีการจัดเทศกาลเกี่ยวกับ K-Pop หนังและซีรีย์ขึ้น หากสมาชิกสภากรุงเทพมหานครเดินทางมาที่เกาหลีช่วงเวลาดังกล่าวจะพาทุกท่านใส่ชุดฮันบกเพื่อร่วมเทศกาล
.
นอกจากนี้สภากรุงเทพมหานครและสภากรุงโซลมีการหารือการปรับปรุง MOU ใหม่ในอนาคต โดยจะมีการใช้เทคโนโลยี AI ให้เข้ามามีส่วนในการพัฒนาเมืองทั้งสองต่อไป
.
สำหรับสมาชิกสภากรุงเทพมหานครที่ร่วมต้อนรับและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ประกอบด้วย นางชญาดา วิภัติภูมิประเทศ ส.ก. เขตคันนายาว นายณภัค เพ็งสุข ส.ก. เขตลาดพร้าว นางสาวรัตติกาล แก้วเกิดมี ส.ก. เขตสายไหม นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก. เขตจอมทอง และนายสัณห์สิทธิ์ เนาถาวร ส.ก. เขตวัฒนา
————————————-
ผู้ชมทั้งหมด 74 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 6 ครั้ง