สภากรุงเทพมหานคร ต้อนรับคณะดูงานจากสภาเทศบาลเมืองกุฉินารายณ์ ยกระดับการบริหารกิจการสภาการปกครองส่วนท้องถิ่น

(18 ก.ย. 68) สภากรุงเทพมหานครนำโดยนายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย รองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่หนึ่ง ให้การต้อนรับนายสุระชัย ภาระสาร รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกุฉินารายณ์ นายเฉลียว พลกุล ประธานสภาเทศบาลเมืองกุฉินารายณ์ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองกุฉินารายณ์และคณะ ในการศึกษาดูงานเรียนรู้ต้นแบบในการดำเนินงานของกิจการสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง

.

“ในนามของสภากรุงเทพขอต้อนรับทุกท่านด้วยความยินดียิ่ง กรุงเทพมหานครเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ที่เป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางการปกครองของประเทศไทย ข้อดีของการปกครองท้องถิ่นคือ มีความใกล้ชิดประชาชน รู้ปัญหาอุปสรรค ความต้องการของประชาชนเป็นอย่างดี สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้โดยสะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนี้ในปัจจุบันมีบทบาทและความสำคัญอย่างมากต่อความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งในด้านการพัฒนาพื้นที่ การจัดบริการสาธารณะให้แก่ประชาชน นอกจากนี้ยังเป็นกลไกสำคัญของการพัฒนาประชาธิปไตยและพลเมืองที่รากฐาน อย่างไรก็ตามสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลง ทั้งในระดับโลกและระดับท้องถิ่นที่เราเผชิญอยู่ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาด อย่างโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยพิบัติ เศรษฐกิจ ภาษีต่างประเทศ เทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบเอไออัจฉริยะ ฯลฯ ล้วนแต่เป็นความท้าทายของทั้งกรุงเทพมหานครและเทศบาลที่จะต้องเตรียมการรับมือเพื่อให้ประชาชนและชุมชนได้รับผลกระทบเชิงลบให้น้อยที่สุด ดังนั้น การศึกษาดูงานในวันนี้สภากรุงเทพมหานครจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ในการทำงาน และได้แรงบันดาลใจที่จะนำไปสู่การพัฒนายกระดับการทำงานของสภา ให้เป็นองค์กรที่มีความทันสมัยและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า นับจากวันนี้สภากรุงเทพมหานครและสภาเทศบาลของท่านจะเป็นพันธมิตร เครือข่ายที่เข้มแข็ง เป็นแบบอย่างที่ดีในการร่วมพัฒนาประเทศและประชาธิปไตยที่สร้างสรรค์อันจะนำไปสู่วัฒนธรรมมการเมืองท้องถิ่นที่พึงปรารถนา” นายเนติภูมิ กล่าว

.

“สมาชิกสภา” ในฐานะบุคคลที่ได้รับเลือกตั้งโดยตรงมาจากประชาชน เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชน ในการสะท้อนความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ทั้งรับฟังปัญหา ความต้องการ ความเดือดร้อน ตลอดจนข้อร้องเรียนต่าง ๆ ของประชาชน แล้วดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งด้วยสภาฯเอง ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือผลักดันให้ฝ่ายบริหารดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ ยังมีบทบาทในการตรวจสอบและควบคุมการทำงานของฝ่ายบริหารตามหลักการถ่วงดุลอำนาจในระบบรัฐสภา และมีหน้าที่ในกระบวนการนิติบัญญัติอันเกี่ยวข้องกับการร่างและพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อกฎหมาย ข้อบัญญัติต่างๆ ซึ่งถือเป็นหน้าที่หลักของสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร จึงถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

.

กรุงเทพมหานครมีการทำงานที่ทับซ้อนกับหน่วยงานอื่น ๆ ถึงแม้จะมีงบประมาณที่มากกว่าท้องถิ่นอื่น แต่เรื่องการพัฒนาเมืองนั้นค่อนข้างล่าช้า เพราะต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ในการทำโครงการ ตัวอย่างเช่น ต้องการพัฒนาทางเท้า จำเป็นต้องประสานกับการประปา เพราะมีท่อประปาอยู่ด้านล่างทางเท้า ต้องการพัฒนาถนน ต้องประสานการไฟฟ้าเพื่อนำสายไฟฟ้าลงดิน เป็นต้น โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสภากรุงเทพมหานครมีการพิจารณาร่างข้อบัญญัติกทม.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2569 งบประมาณกว่า 92,000 ล้านบาท ซึ่งมองว่าอาจจะเยอะ แต่โดยรวมแล้วแทบไม่พอในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะเรื่องฝุ่น PM2.5 น้ำท่วม รถติด รวมถึงขยะตกค้าง นายเนติภูมิ กล่าว

.

นายณรงค์ศักดิ์ ม่วงศิริ ส.ก.บางบอน กล่าวเสริมว่า งบประมาณในการกำจัดขยะมูลฝอยของ กทม. ประมาณ 7,000 ล้านต่อปี ซึ่งดูแล้วจะมองว่าเยอะ แต่โดยรวมแล้วนั้นไม่พอ เนื่องด้วย กทม. มีประชากรและประชากรแฝงรวมกันมากกว่า 8 ล้านคน ทำให้ปริมาณขยะที่ต้องจัดเก็บต่อวันมีมากกว่าอัตรากำลังคนทำงานที่ยึดตามสัดส่วนของประชากรในท้องที่ ซึ่งสภากทม.ได้ผลักดันเรื่องนี้มาโดยตลอด

.

นายกฤษฏ์ คงวุฒิปัญญา ส.ก. ภาษีเจริญ ได้อธิบายถึงการดำเนินการของคณะกิจการสภาของสภากรุงเทพมหานคร ว่า เป็นการทำงานเกี่ยวกับการดูและสวัสดิการของสมาชิก การสานสัมพันธ์สภาบ้านพี่เมืองน้องกับต่างประเทศ เพื่อการพัฒนาเมืองให้ทันสมัย นำความรู้ เทคโนลยีของต่างประเทศมาปรับใช้กับกรุงเทพมหานคร เช่น การลดปริมาณฝุ่น PM2.5 ในเมืองหลวงโดยการใช้รถไฟฟ้าหรือการนำขยะมารีไซเคิลเป็นพลังไฟฟ้าที่สภากรุงเทพมหานครกำลังผลักดันอย่างต่อเนื่อง

.