สภากทม. จัดสัมมนาร่วมกับผู้บริหารกทม. ระดมความคิดเห็นนอกรอบ ทำงานเพื่อส่งต่อความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีให้ประชาชน
นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาระหว่างสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและผู้บริหารกรุงเทพมหานคร เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในด้านการบริหารราชการ กรุงเทพมหานคร การประสานความร่วมมือร่วมกัน และการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 มิถุนายน 2566 ณ โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน จังหวัดเพชรบุรี
.
“นับเป็นโอกาสอันดีที่สภากรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นองค์กรนิติบัญญัติของ กรุงเทพมหานคร และฝ่ายบริหารกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกันหารือเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความคิดเห็น บูรณาการความร่วมมือ และสร้างสรรค์แนวทางการพัฒนากรุงเทพมหานครร่วมกัน เพื่อการบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ดียิ่งขึ้นเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวกรุงเทพฯ นอกจากนี้ในการสัมมนาครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างพื้นฐานการทำงานอย่างสร้างสรรค์ และสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของกรุงเทพมหานคร ผ่านการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและประสบการณ์การบริหารกิจการของกรุงเทพมหานครในแต่ละด้าน ซึ่งเปรียบเสมือนฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนกลไกขนาดใหญ่ที่ชื่อว่ากรุงเทพมหานครไปด้วยกัน เพื่อการพัฒนากรุงเทพมหานครอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป” นายวิรัตน์ กล่าว
.
ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวขอบคุณสภากรุงเทพมหานคร ที่จัดการสัมมนาในครั้งนี้ขึ้น เพื่อที่เราจะได้หารือแลกเปลี่ยนประสบการณ์การบริหารราชการร่วมกัน และในโอกาสที่ทำงานร่วมกันมาครบ 1 ปีด้วย ทั้งการลงพื้นที่ร่วมกัน การบริหารงบประมาณ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร โดยในการสัมมนาครั้งนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวถึงแนวคิดการดำเนินงานในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ที่เน้นการแก้ปัญหาเส้นเลือดฝอยในพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น ปัญหาน้ำท่วมขัง ปัญหาท่อระบายน้ำอุดตัน ปัญหาคลองตื้นเขิน ปัญหาแสงสว่างในพื้นที่ ปัญหาเรื่องความสะอาด ปัญหาทางเท้า และได้มีการสานและต่อผลักดันโครงการขนาดใหญ่เชื่อมโยงการพัฒนาเส้นเลือดฝอย การเปลี่ยนวิธีการทำงานโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีและข้อมูล การสร้างความโปร่งใสในการทำงาน และความร่วมกับเครือข่ายทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนเมือง เพื่อให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน
.
นายวิรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา สภากรุงเทพมหานคร ได้ผลักดัน สนับสนุน เสนอแนวทาง รวมทั้งรับฟังปัญหาของประชาชนและได้นำเสนอต่อฝ่ายบริหารเพื่อให้ปัญหาของประชาชนได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุดและเป็นไปตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เช่น การผลักดันกองทุนพัฒนาชุมชน 200,000 บาท เพื่อกระจายอำนาจและงบประมาณจากส่วนกลางสู่ชุมชนให้มากที่สุด ซึ่งหลายชุมชนก็ได้รับงบประมาณและดำเนินการตามนโนบายได้แล้ว นโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power สนับสนุนให้ทุกคนสามารถเรียนรู้เพิ่มทักษะสร้างสรรค์ของตัวเองในทุกด้าน ไม่ว่าทักษะด้านการทำอาหาร ร้องเพลง ออกแบบ ศิลปะ กีฬา เพื่อต่อยอดเป็นอาชีพสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ผลักดันเรื่องการศึกษานอกเวลาเรียน หรือการเรียนในวันเสาร์ Saturday School ที่มีการเปิดสอนในวิชาอื่นๆ ที่โรงเรียนไม่ได้สอน เด็กสามารถเลือกเรียนตามความสนใจได้ รวมทั้งการแก้ปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษาของโรงเรียนในสังกัด 437 แห่ง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาให้กับเด็กในพื้นที่มากที่สุด การหารือและผลักดันให้ศูนย์บริการสาธารณสุขยกระดับเป็นโรงพยาบาลเพื่อรองรับการให้บริการด้านสุขภาพกับประชาชนชาวกรุงเทพฯ และในเรื่องของ โครงการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ทางสภาจะช่วยกันศึกษาและหาแนวทางแก้ปัญหาในอนาคต นอกจากนี้สภากรุงเทพมหานครยังมีหน้าที่ในการออกข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ที่ได้ดำเนินการตามนโยบาย และมุ่งแก้ไขปัญหาเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชนต่อไป
.
สำหรับผู้เข้าร่วมการสัมมนา ประกอบด้วย สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และหัวหน้าหน่วยงานกรุงเทพมหานคร เป็นการจัดสัมมนาในรูปแบบการเสวนาโต๊ะกลม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์การบริหารงานระหว่างสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน (CPR) และการใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (ADE)” โดยศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ)
———————————
ผู้ชมทั้งหมด 325 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 2 ครั้ง