
สภา กทม. เห็นชอบขยายเวลา 2 โครงการใหญ่ “ปรับปรุงสถานีสูบน้ำ-สร้างเขื่อนคลองสามเสน” หลังล่าช้าจากขั้นตอนงบและหาผู้รับจ้าง
วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 5) พ.ศ. 2568 โดยมีนายวิพุธ ศรีวะอุไร ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง)
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เสนอญัตติขอความเห็นชอบขยายระยะเวลาการดำเนินการรายการผูกพัน โครงการปรับปรุงสถานีสูบน้ำคลองสามเสน แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และโครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. คลองสามเสน ช่วงถนนสามเสนถึงถนนพระรามที่ 6 และปรับปรุงทางเดินหลังเขื่อนจากถนนพระรามที่ 6 ถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
นายชัชชาติ กล่าวว่า สำนักการระบายน้ำได้รับอนุมัติดำเนินการ 2 โครงการดังนี้
- โครงการปรับปรุงสถานีสูบน้ำคลองสามเสน แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร มีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2567-2569 บริหารสัญญา 450 วัน วงเงินทั้งโครงการ 390 ล้านบาท และงบประมาณอุดหนุนจากรัฐบาลและงบประมาณจากกรุงเทพมหานคร ในอัตราส่วน 70 ต่อ 30 ประกอบด้วยเงิน งบประมาณอุดหนุนจากรัฐบาล 273 ล้านบาท และงบประมาณจากกรุงเทพมหานคร 117 ล้านบาท โดยได้รับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 เป็นเงิน 8 ล้านบาท ส่วนที่เหลือผูกพันงบประมาณเป็นเงิน 109 ล้านบาท
- โครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. คลองสามเสน ช่วงถนนสามเสนถึงถนนพระรามที่ 6 และปรับปรุงทางเดินหลังเขื่อนจากถนนพระรามที่ 6 ถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี จากพ.ศ. 2568-2569 บริหารสัญญา 540 วัน วงเงินทั้งโครงการ 256 ล้านบาท ฉะนั้นงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 เป็นเงิน 2 ล้านบาท ส่วนที่เหลือผูกพันงบประมาณเป็นเงิน 254 ล้านบาท
กทม. มีความจำเป็นในการดำเนินโครงการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำและป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจำนวน 2 โครงการ ซึ่งขณะนี้ดำเนินการจนได้ผู้รับจ้างแล้ว เป็นเงิน 300 ล้านบาท กำหนดยื่นราคา 150 วัน ครบกำหนดวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ปัจจุบันไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้เนื่องจากระยะเวลาก่อสร้างแล้วเสร็จเกินกว่าระยะเวลาสิ้นสุดโครงการ ตามที่สภา กทม. ได้ให้ความเห็นชอบไว้ จำเป็นต้องขอขยายระยะเวลาในการดำเนินการ 3 ปี เป็น 4 ปี จาก พ.ศ. 2567-2569 เป็น พ.ศ. 2567-2570 คาดการณ์ว่าจะลงนามสัญญาเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2568 และสิ้นสุดสัญญาเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2569
ส่วนโครงการที่สอง ขณะนี้ได้ตัวผู้รับจ้างแล้วเป็นเงิน 242 ล้านบาท กำหนดยื่นราคา 120 วัน ครบกำหนดวันที่ 16 กันยายน 2568 ปัจจุบันไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันธ์ได้ เนื่องจากระยะเวลาก่อสร้างแล้วเสร็จเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนดจำเป็นต้องขยายระยะเวลาจากเดิม 2 ปี เป็น 3 ปี คาดการณ์ว่าลงนามสัญญาเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2568 และสิ้นสุดสัญญาเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2570
ด้านนายนภาพล จีระกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตบางกอกน้อย ถามถึงเหตุผลความจำเป็นในการขอขยายระยะเวลาดำเนินการ
นายชัชชาติ ชี้แจงว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลในปี พ.ศ. 2567 งบประมาณของรัฐบาลมีความล่าช้า อนุมัติให้ใช้เงินได้เมื่อเดือนเมษายนปี พ.ศ. 2567 ทั้งที่งบประมาณของเราเองใช้ได้ตั้งแต่ตุลาคมปี พ.ศ. 2566 และขณะเดียวกัน การใช้เงินของรัฐบาลจะต้องมีการขออนุมัติจากกระทรวงมหาดไทย ทั้งการขออนุมัติจัดซื้อจัดจ้าง และขออนุมัติผู้ที่ชนะการประมูล
นายนภาพล กล่าวต่อว่า โครงการนี้เป็นโครงการอุดหนุนจากรัฐบาลมีหลายโครงการที่รัฐบาลให้เงินอุดหนุน ซึ่ง สภา กทม. ผ่านข้อบัญญัติที่ขอมาในโครงการใดแล้วหน่วยงานสามารถดำเนินการได้เลย แต่เซ็นสัญญาไม่ได้ หากไม่ได้เงินอุดหนุน โครงการไม่จำเป็นต้องรอเงินอุดหนุนสามารถเดินหน้าได้เลย เพราะสภา กทม. ผ่านงบประมาณให้แล้ว แต่ถ้าหากได้ผู้รับจ้างแล้วแต่รัฐบาลยังไม่ให้เงินอุดหนุน ตรงนี้ถึงเซ็นไม่ได้ ตนมองว่าอ้างว่ารัฐบาลยังไม่ให้เงินอุดหนุนและทำอะไรไม่ได้มันไม่ใช่ ขอเหตุผลเพิ่มเติม
นายชัชชาติ ระบุว่า จากการชี้แจงของสำนักการระบายน้ำมีประเด็น เนื่องจากว่าโครงการนี้ต้องมีการใช้ไฟจากไฟฟ้านครหลวง ต้องให้การไฟฟ้านครหลวงประเมินราคามาด้วย เพราะเป็นพื้นที่ที่มีความซับซ้อนละเอียดอ่อน ซึ่งต้องใช้เวลาในการให้ราคาของค่าไฟที่ต้องใช้ในการคำนวณราคากลางกลับมา อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการล่าช้ากับโครงการนี้
นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก. เขตจอมทอง กล่าวว่า ทั้ง 2 โครงการมีความสำคัญ เนื่องจากกว่าจะของบประมาณมา ได้ค่อนข้างใช้เวลานาน ตนเคยอภิปรายไว้ว่าประตูระบายน้ำสามเสนมีความสำคัญ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในเขตชั้นใน แต่ในวันนี้โครงการค่อนข้างที่จะล่าช้า อยากเสนอว่าถ้าหากเราเปลี่ยนกำหนดระยะเวลาจาก 2 ปีเสร็จ ให้เป็น 3 ปีเสร็จดีกว่าหรือไม่ เราจะได้ไม่ต้องนำโครงการเหล่านี้เข้าสู่สภาเพื่อขอความเห็นชอบขยายเวลา ด้านนายพีรพล กนกวลัย ส.ก. เขตพญาไท กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับที่นายสุทธิชัยอภิปราย ขอให้ทำโครงการ 2 ปี เป็น 3 ปี เพราะถ้าทำ 3 ปี ก็จะยืดเป็น 4 ปี ด้านนายวิรัช คงคาเขตร ส.ก. เขตบางกอกใหญ่ กล่าวว่า หลาย ๆ โครงการของกรุงเทพมหานคร มักจะไม่เป็นไปตามเงื่อนไข มีการขยายเพิ่มเป็น 100 วัน 300 วันบ้าง ตามแผนของบริษัท
ขณะที่นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กล่าวว่า โครงการปรับปรุงสถานีสูบน้ำคลองสามเสนมีการจัดประมูลเพียงครั้งเดียว โดยมีผู้ยื่นซอง 4 ราย งานก่อสร้างเป็นงบปี พ.ศ. 2568 เดิมคาดการณ์ว่าจะหาผู้รับจ้างได้ในเดือนมีนาคมปี พ.ศ. 2568 แต่เกิดความล่าช้าในการทำราคาของเราเอง โดยการหาตัวผู้รับจ้างในการก่อสร้างดำเนินการตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้างปี พ.ศ. 2560 มีขั้นตอนตั้งแต่การประกาศแผน การทำแบบรูปรายการ การจัดทำขอความเห็นชอบราคากลาง ภายหลังจากนั้นจะมีการเห็นชอบการจัดซื้อจัดจ้างและการประกาศรับฟังการวิจารณ์ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2568 ถึง 8 เมษายน พ.ศ. 2568 จากนั้นจะเผยแพร่ ประกาศทางเว็บไซต์และมีการยื่นข้อเสนอ และมีการรายงานผลพิจารณาอนุมัติจ้าง ซึ่งอาจจะมีระยะเวลาที่ทอดยาวมากกว่าที่คาดไว้ โดยโครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. คลองสามเสน โครงการนี้มีการประมูลครั้งเดียวและมีผู้ยื่นเสนอราคา 2 ราย
นายชัชชาติ กล่าวว่า จะรับข้อสังเกตุของสมาชิกไปปรับปรุงให้ดีขึ้น
หลังจากนั้นสภา กทม. มีการลงมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการทั้ง 2 โคงการ
ผู้ชมทั้งหมด 114 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 2 ครั้ง