skip to Main Content
คณะอนุกรรมการวิสามัญฯ 3 ชุด นำข้อมูลผลการติดตามงบเขต เข้าที่ประชุม คกก.วิสามัญฯ งบกทม. 69

คณะอนุกรรมการวิสามัญฯ 3 ชุด นำข้อมูลผลการติดตามงบเขต เข้าที่ประชุม คกก.วิสามัญฯ งบกทม. 69

ณ ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เปิดเผยว่า วานนี้ (28 ส.ค. 68) มีการพิจารณางบประมาณฯ โดยคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นำผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงเหตุผลความจำเป็น และความเหมาะสมการใช้งบประมาณ จำนวน 3 คณะ ประกอบด้วย 1. คณะอนุกรรมการฯ ของสำนักงานเขตบางนา ยานนาวา พระโขนง และวัฒนา 2. คณะอนุกรรมการฯ ของสำนักงานเขตบึงกุ่ม บางกะปิ คันนายาว สะพานสูง และสวนหลวง และ 3. คณะอนุกรรมการฯ ของสำนักงานเขตมีนบุรี ลาดกระบัง หนองจอก และคลองสามวา
.
นายสัณห์สิทธิ์ เนาถาวร ส.ก.เขตวัฒนา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฯ ของสำนักงานเขตบางนา ยานนาวา พระโขนง และวัฒนา ได้รายงานข้อสังเกตของคณะอนุกรรมการฯ ต่อที่ประชุม ประกอบด้วย ข้อสังเกตเกี่ยวกับการนำอุปกรณ์อัจฉริยะ Interactive Board มาใช้ในโรงเรียน ดังนี้
1. การพิจารณาด้านวัตถุประสงค์และการใช้งาน : โรงเรียนควรพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ในการใช้งานชุดอุปกรณ์อัจฉริยะ (Interactive Board) อย่างรอบด้าน และประเมินว่าฟังก์ชันการใช้งานของอุปกรณ์ดังกล่าว สามารถส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนได้อย่างคุ้มค่าเพียงใดเมื่อเทียบกับสมาร์ททีวี (Smart TV) นอกจากนี้ควรคำนึงถึงภาระที่อาจเกิดขึ้นกับครูผู้สอนรวมถึงการจัดเตรียมความรู้ความเข้าใจที่จำเป็นเพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
2. การบริหารจัดการงบประมาณและทรัพยากร : ชุดอุปกรณ์อัจฉริยะ (Interactive Board) มีราคาสูงและมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา โรงเรียนจึงควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด โดยพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อาทิ การเลือกยี่ห้อที่มีมาตรฐานและเชื่อถือได้ การบำรุงรักษาและบริการหลังการขาย การรับประกันคุณภาพสินค้าในระยะเวลาที่ครอบคลุมกับการใช้งาน และการวางแผนการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การลงทุนเกิดประโยชน์สูงสุด
3. การจัดทำโครงการนำร่องและประเมินผล : สำนักการศึกษาควรจัดทำโครงการโรงเรียนต้นแบบด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยจัดหาอุปกรณ์ประกอบการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนทุกคน เช่น แท็บเล็ต (Tablet) หรือ ไอแพด (iPad) เป็นต้น เพื่อใช้ในการประมวลผลและเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกับการใช้อุปกรณ์แบบเดิม กล่าวคือ สมาร์ททีวีในห้องเรียนดิจิทัล หรือ ชุดอุปกรณ์อัจฉริยะ (Interactive Board)
4. การจัดทำมาตรฐานและคู่มือการใช้งาน : สำนักการศึกษาควรจัดทำเกณฑ์และข้อกำหนดในการจัดซื้อชุดอุปกรณ์อัจฉริยะ (Interactive Board) ให้มีความชัดเจนและเป็นมาตรฐานเดียวกัน เช่น รายละเอียดด้านหน่วยประมวลผล หน่วยความจำ ระบบปฏิบัติการ รวมถึงการจัดทำคู่มือและหลักสูตรการฝึกอบรมการใช้งานและการบำรุงรักษา ทั้งนี้ การจัดซื้อในภาพรวมของทุกโรงเรียนจะเป็นแนวทางที่ช่วยให้เกิดความคุ้มค่าทั้งในด้านคุณภาพและราคา

สำหรับข้อสังเกตเกี่ยวกับการปรับปรุงโรงเรียน มีดังนี้
1. ห้องเรียนสำหรับเด็กพิเศษ : ควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักเรียนในห้องเรียนสำหรับเด็กพิเศษเป็นอันดับแรก หากจำเป็นต้องติดตั้งประตูหรือหน้าต่างบานเลื่อน ควรพิจารณาใช้กระจกนิรภัยหรือวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทาน เพื่อป้องกันอันตรายจากความชำรุดเสียหาย
2. การติดตั้งกันสาดและตาข่ายสนามกีฬา : การติดตั้งกันสาดบริเวณหน้าอาคารเรียนที่อยู่ใกล้ลานกีฬา ควรเลือกใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงเป็นพิเศษเพื่อป้องกันความเสียหายจากกิจกรรมกีฬา นอกจากนี้ควรพิจารณาติดตั้งตาข่ายกั้นรอบบริเวณสนามกีฬาเพื่อลดความเสี่ยงที่อุปกรณ์อื่น ๆ จะได้รับความเสียหาย
3. การปรับปรุงห้องน้ำ : ในการปรับปรุงห้องน้ำ หากมีการยกระดับพื้น ควรคำนึงถึงความปลอดภัยด้วยการติดตั้งราวจับหรือราวกันตกเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ นอกจากนี้ตำแหน่งของห้องน้ำไม่ควรอยู่ติดหรือใช้กำแพงร่วมกับโรงอาหารหรือสถานที่ประกอบอาหาร เพื่อสุขอนามัยที่ดี
4. การก่อสร้างโครงหลังคาคลุมทางเดิน : การออกแบบโครงหลังคาคลุมทางเดินควรมีการสำรวจทิศทางแดดและลมเพื่อให้สามารถบังแดดและกันฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ข้อสังเกตเกี่ยวกับการปรับปรุงทางเท้า ดังนี้
1. การออกแบบสำหรับทุกคน : การปรับปรุงทางเท้าที่ชำรุดควรออกแบบในลักษณะ Universal Design เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และรองรับการใช้งานของทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือผู้มีข้อจำกัดอื่น ๆ
2. การจัดการสิ่งกีดขวาง : ควรมีการเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์สาธารณะ (Street Furniture) ที่กีดขวางทางเท้า เพื่อปรับปรุงทัศนียภาพและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานทางเท้าให้เต็มที่
3.. การควบคุมช่องทางเข้า-ออก : สำนักงานเขตควรตรวจสอบและควบคุมการก่อสร้างช่องทางเข้า-ออก สำหรับบ้านเรือนหรือสถานประกอบการให้มีระดับเดียวกับทางเท้าเดิม เพื่อรักษาความสวยงามและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากความต่างระดับของพื้นผิว

นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตเกี่ยวกับการขุดลอกคูคลอง เกี่ยวกับการดำเนินการตามกำหนดเวลา : สำนักงานเขตควรดำเนินการขุดลอกคูคลองในพื้นที่รับผิดชอบตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในช่วงฝนตก และลดปัญหาน้ำท่วมขังที่อาจส่งผลกระทบต่อการจราจร
.
นางสาวมธุรส เบนท์ ส.ก.เขตสะพานสูง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฯ ของสำนักงานเขตบึงกุ่ม บางกะปิ คันนายาว สะพานสูง และสวนหลวง ได้รายงานข้อสังเกตของคณะอนุกรรมการฯ ต่อที่ประชุม ดังนี้
1. การซ่อมแซม ปรับปรุง ก่อสร้างงานต่าง ๆ ต้องดำเนินการประชาสัมพันธ์และติดป้ายประกาศของโครงการก่อสร้างในแต่ละพื้นที่อย่างทั่วถึงและชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณถนนที่มีทางเข้า-ออกเพียงเส้นทางเดียว ควรมีการจัดการเส้นทางจราจรสำรองหรือมาตรการรองรับ เพื่อลดผลกระทบและความเดือดร้อน ของประชาชนผู้ใช้เส้นทาง และผู้ควบคุมงานต้องเข้มงวดกับผู้รับจ้าง เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามมาตรฐานวิศวกรรม ให้เป็นไปตาม TOR อย่างเคร่งครัด รวมถึงผู้รับจ้างต้องมีการจัดส่งแผนการดำเนินการก่อสร้างให้กับสำนักงานเขตก่อนเริ่มดำเนินการ
2. สำนักงานเขตต้องติดตาม ตรวจสอบ และกำกับดูแลการดำเนินงานของผู้รับจ้างอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่เริ่มดำเนินการ ระหว่างการดำเนินการ จนถึงขั้นตอนการส่งมอบงานให้แล้วเสร็จ ตามขอบเขตของงานและระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา
3. การก่อสร้างบ่อพักท่อระบายน้ำ ควรดำเนินการตามมาตรฐานวิศวกรรมและมีการพิจารณาปรับระยะตำแหน่งบ่อพักให้เหมาะสมตามสภาพหน้างาน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการสัญจรของรถยนต์และลดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่
4. การก่อสร้าง ปรับปรุงถนนซอย สำนักงานเขตควรมีการหารือร่วมกับหน่วยงานสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการและแผนงานที่จะดำเนินการปรับปรุง เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันไม่ให้ระยะเวลาดำเนินการล่าช้าเกินกว่ากำหนด
5. ในกรณีที่สำนักงานเขตมีเหตุผลความจำเป็นเร่งด่วน ให้สำนักงานเขตเสนอขอจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยไม่ต้องรอเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีถัดไป เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างเร่งด่วน
.
นายไพฑูรย์ อิสระเสรีพงษ์ ส.ก.เขตหนองจอก ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฯ ของสำนักงานเขตมีนบุรี ลาดกระบัง หนองจอก และคลองสามวา ได้รายงานข้อสังเกตของคณะอนุกรรมการฯ ต่อที่ประชุม ดังนี้
1. กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก เป็นกลุ่มเขตที่กำลังพัฒนา และรองรับการขยายตัวของเมือง ปัจจุบันมีประชากรย้ายเข้ามาอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก ต้องพัฒนาด้านกายภาพและด้านต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้มีงบประมาณเพียงพอแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน
2. สำนักการโยธาได้กำหนดขนาดท่อเป็นแบบ มอก. 2 จากเดิมที่เป็นแบบ มอก. 3 ทำให้งบประมาณเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 15% ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณของกรุงเทพมหานคร เนื่องจากท่อแบบ มอก. 3 ก็เพียงพอที่จะรองรับน้ำหนักจากรถประเภทต่าง ๆ ที่เดินทางสัญจรไปมา
3. การกำหนดขนาดท่อระบายน้ำในถนนสายรอง ตรอก ซอย ของสำนักงานเขตควรให้สำนักงานเขตเป็นผู้กำหนดขนาดท่อระบายน้ำได้เอง เพราะเป็นผู้ดูแลพื้นที่เขตและทราบถึงความจำเป็น และความเหมาะสมของสภาพพื้นที่เขต
4. การขุดลอกคู คลอง ควรขุดลอกในช่วงฤดูแล้งเพื่อแก้ไข ป้องกันปัญหาน้ำท่วม และภัยแล้ง ได้ทันในช่วงฤดูฝน ทั้งนี้สามารถตรวจสอบปริมาณงานขุดลอกดินได้ครบตามที่ได้กำหนด พร้อมกำหนดเงื่อนไขให้ผู้รับเหมารับผิดชอบ กรณีขุดลอกคู คลอง ทำให้ชาวบ้านได้รับความเสียหาย ให้แก้ไขให้อยู่ในสภาพใช้งานได้เหมือนเดิม
5. การปรับปรุงซ่อมแซมโรงเรียน ควรจะดำเนินการในช่วงปิดเทอม เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา
6. เอกสารประกอบการตั้งงบประมาณประจำปี กรณีการก่อสร้าง/ปรับปรุงสำนักงานเขตจะต้องจัดทำรูปแบบ แบบก่อสร้าง เอกสารประกอบแบบ เอกสารราคาก่อสร้างผังบริเวณฯ แล้วเสร็จก่อน จึงนำมาประมาณราคา เพื่อเสนอคำขอตั้งงบประมาณประจำปี ดังนั้น การออกเลขที่แบบงานก่อสร้าง/ปรับปรุง ควรออกเลขที่แบบตามปีปฏิทิน มิใช่ใช้เลขที่ออกแบบตามปีงบประมาณ
—————————————

ผู้ชมทั้งหมด 146 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 4 ครั้ง

This Post Has 0 Comments
กรุณาเข้าสู่ระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็น
Back To Top