skip to Main Content
“วิรัช” จี้ระบบรวมน้ำเสีย ชี้ ยิ่งล่าช้าประชนชนยิ่งเดือดร้อน

“วิรัช” จี้ระบบรวมน้ำเสีย ชี้ ยิ่งล่าช้าประชนชนยิ่งเดือดร้อน

วันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง) ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 4) พ.ศ. 2568 โดยมีนายสุรรจิตติ์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม นายวิรัช คงคาเขตร ส.ก. เขตบางกอกใหญ่ ตั้งกระทู้ถามสด เรื่องความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากความล่าช้าของโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสียและระบบบำบัดน้ำเสียธนบุรี สัญญาที่ 3 ในพื้นที่เขตบางกอกใหญ่

 

นายวิรัช กล่าวว่า กระทู้ที่ยื่นในวันนี้เปรียบเสมือน “เรื่องเก่าที่นำมาเล่าใหม่” ในสภาแห่งนี้ ในอดีตบางบอกใหญ่มีน้ำใสสะอาด แต่โครงการนี้กลับทำให้เสียหายอย่างมาก และปัจจุบันปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร เป็นเจ้าของโครงการดังกล่าว ไม่ใช่สำนักงานเขตบางกอกใหญ่

 

“ตอนนี้ฝนตก ดินโคลนขวางทางน้ำทำให้น้ำไปไหนไม่ได้ สุดท้ายน้ำก็เอ่อเข้าท่อบนถนนและท่อน้ำทิ้งของประชาชน”

นายวิรัช ชี้ให้เห็นถึงปัญหาและอุปสรรคที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข สัปดาห์ที่แล้ว สำนักงานเขตบางกอกใหญ่ต้องร่วมกับประชาชนช่วยกันนำไม้ที่ขวางทางเดินของน้ำออก นายวิรัชจึงถามผู้บริหารกรุงเทพมหานครว่า มีแนวทางอย่างไรที่จะลดผลกระทบจากโครงการดังกล่าว

 

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่มีปัญหามาต่อเนื่อง มีหลายปัจจัย และได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก

 

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า พื้นที่การทำงานค่อนข้างแคบ การนำเครื่องจักรเข้าไปจึงเป็นไปได้ยาก อย่างไรก็ตาม แผนที่เคยนำเรียนไปคือจะให้ผู้รับจ้างปรับแผนการดำเนินงานทีละช่วง โดยพยายามเร่งให้เสร็จตามแผนงาน มีการเร่งรัดผู้รับจ้างให้เพิ่มหัวเจาะดันท่อเป็นแปดชุดและท่อใหญ่อีกหนึ่งชุด เพื่อให้ดำเนินการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ส่วนคลองไหนที่มีน้ำท่วมขังอยู่ก็จะมีการติดตั้งปั๊มและมีเจ้าหน้าที่ดูแลหากฝนตกแล้วน้ำท่วมขัง

 

นายวิรัช ได้กล่าวว่า บริษัทรับจ้างได้ตั้งเครื่องปั๊มจริง แต่ “ตั้งมาหนึ่งเดือนไม่มีน้ำมัน” ตนลงพื้นที่ไปเห็นว่าไม่มีคนเฝ้าเครื่อง ไม่มีคนเปิด จนรู้สึกว่าบริษัท “ดื้อ”

 

นายวิรัชมีคำถามต่อไปว่า จากโครงการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญคือ ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนของประชาชนเกือบ 193 เรื่องที่อยู่ในระบบ และยังมีอีกหลายเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในระบบ “สองปีแล้วยังไม่มีใครเข้าไปพูดคุยกับชาวบ้าน นี่เป็นตัวอย่าง” ตนจึงเป็นห่วงเรื่องดังกล่าว ทางกรุงเทพมหานครจะดำเนินการอย่างไร เพราะชาวบ้านเกรงว่าเมื่อเสร็จงานแล้วจะไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาที่ได้ร้องเรียน

 

นายวิศณุ กล่าวว่า ต้องขอโทษพี่น้องประชาชน และเรื่องร้องเรียนทั้งหมดตนจะลงไปติดตามดำเนินการร่วมกับสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานคร

 

นายวิรัช ถามคำถามที่สามเกี่ยวกับ แผนพัฒนาเขตบางกอกใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าว “เคยมีโครงการจะสร้างเขื่อนสามเขื่อนแต่ได้สร้างเพียงหนึ่งเขื่อน เพราะมีผลกระทบจากโครงการที่เป็นปัญหาอยู่” เรายังมีแผนในปี 2569 อีก โครงการต่าง ๆ ต้องสะดุด ดังนั้นจึงอยากถามฝ่ายบริหารว่ามีแผนอย่างไรในการชดเชยด้านงบประมาณ เพื่อให้แผนพัฒนาเขตบางกอกใหญ่ก้าวไปข้างหน้าได้

 

นายชัชชาติ กล่าวว่าเป็นเรื่องที่กังวลอยู่ จึงได้ให้นโยบายไปแล้วว่า ตรงไหนที่ทำไม่ได้ต้องนำกลับมาทำ เพราะได้รับการอนุมัติจากสภาไปแล้ว ต้องเร่งนำเขื่อนกลับมาโดยเร็วที่สุด และรีบบรรจุให้เข้ากับแผนดำเนินการโดยเร็วที่สุด

ผู้ชมทั้งหมด 44 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 2 ครั้ง

This Post Has 0 Comments
กรุณาเข้าสู่ระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็น
Back To Top