“พุทธิพัชร์” วอน ฝ่ายบริหารทบทวนทำสัญญาให้ละเอียดรอบคอบ หลัง หน่วยงานสาธารณูปโภคทำถนนเสียหายไม่คืนสภาพ จากการขุดบ่อฝั่งท่อ-สายไฟ

วันที่ 16 กรกฎาคม 2568 การประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 3) พ.ศ. 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา นายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ ส.ก.เขตยานนาวา เสนอญัตติขอให้กรุงเทพมหานครแก้ไขปัญหาถนนชำรุดเสียหายจากการก่อสร้างงานสาธารณูปโภคพื้นฐาน

นายพุทธิพัชร์ กล่าวว่า ถนนในพื้นที่กรุงเทพฯ หลายแห่งชำรุดเสียหายจากการก่อสร้างปรับปรุง ซ่อมแชมสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น การนำสายไฟฟ้าและสายสื่อสารลงดิน การวางท่อประปา เป็นต้น เมื่อหน่วยงานดำเนินการเสร็จแล้วไม่ได้คืนสภาพพื้นผิวถนนดังเดิม หรือคืนสภาพแต่ไม่ได้ตามมาตรฐานถนน ส่งผลกระทบต่อการจราจรและความปลอดภัยของประชาชน กรุงเทพมหานครต้องจัดสรรงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมถนนเป็นประจำทุกปี ดังนั้น กรุงเทพมหานครจึงควรมีมาตรการควบคุมหน่วยงานสาธารณูปโภคที่ขุดเจาะพื้นผิวถนนเพื่อก่อสร้าง ปรับปรุง ซ่อมแซมสาธารณูปโภคพื้นฐานให้คืนสภาพพื้นผิวถนนภายหลังดำเนินการแล้วเสร็จในสภาพดีพร้อมใช้งานตามมาตรฐานถนน พร้อมทั้งกำชับให้หน่วยงานสาธารณูปโภคกำหนดระยะเวลารับประกันงาน และเร่งรัดดำเนินการให้กลับสู่สภาพเดิมโดยเร็ว

นายพุทธิพัชร์ กล่าวต่อว่า ได้รับเชิญไปประชุมกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรที่เชิญรองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง สำนักการโยธา มาพูดคุยกันถึงเรื่องของถนนพระราม 3 ที่เกิดการชำรุดทรุดตัว ฝาท่อไม่เรียบร้อย ซึ่งสัญญามีการระบุอย่างชัดเจนว่าจะมีการคืนผิวถนนในกับกรุงเทพมหานคร ตนจึงได้สอบถามว่าถนนที่ไม่ได้มีการขุดฝั่งท่อจะรับผิดชอบอย่างไร เพราะการขุดบ่อร้อยสายไฟของถนนพระราม 3 ต้องร้อยตั้งแต่ต้นทางไปยังปลายทางและต้องขุดเป็นช่วงๆ แต่ระหว่างช่วงก็มีการทรุดตัวลงไปกลายเป็นคลื่น ทางการไฟฟ้าฯ ระบุว่ายินดีซ่อมคืน แต่ปรากฎว่าในสัญญาให้ซ่อมเพียงแค่ฝาบ่อขอบบ่อเท่านั้น ดังนั้นถนนพระราม 3 ที่เป็นคลื่น การไฟฟ้าฯ ไม่ซ่อมคืนให้เพราะไม่ได้อยู่ในสัญญา ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

อีกทั้งฟุตบาทบริเวณถนนพระราม 3 ที่มีประชาชนใช้งานเยอะเพราะมีโรงเรียนอยู่ เกิดอุบัติเหตุผู้สูงอายุและเด็กสะดุดล้มหลายครั้ง เพราะมีการวางท่อประปาบนฟุตบาท เราอยากให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย จึงขอให้ทบทวนการทำสัญญากับองค์กรภายนอกให้ละเอียดรอบคอบเพื่อให้ประชาชน ผู้สัญจร ผู้ใช้ทางเท้าหรือถนนไม่ได้รับความเดือดร้อนจากความผิดพลาดที่เราละเว้นไว้

ด้านนายวิรัช คงคาเขตร ส.ก. เขตบางกอกใหญ่ กล่าวว่า ปัญหาดัวกล่าวส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ไม่ลงไปทำหน้าที่ในการรักษาผลประโยชน์ของกรุงเทพมหานคร “พอเขาเสร็จงานก็เปิดก้นหนีไปเลย” แต่เงื่อนไขยังมีอยู่ เรื่องนี้กลายเป็นภาระงบประมาณที่จะต้องใช้ในการตรวจสอบ

นายกิตติพงศ์ รวยฟูพันธ์ ส.ก. เขตทุ่งครุ กล่าวว่า ปัญญาจากหน่วยงานภายนอกเป็นอะไรที่เหนื่อยมาก เราไม่มีอำนาจในการดำเนินการ ในพื้นที่ก็มีปัญหาเช่นกัน เมื่อโทรไปถามหน่วยงาน หน่วยงานก็โยนให้ผู้รับเหมา ผู้รับเหมาเองก็อ้างว่าของหมดไม่สามารถทำต่อได้ จนถึงวันนี้ต้องใช้เจ้าหน้าที่เทศกิจมาโบกรถเพราะถนนใช้ได้ช่องทางเดียว เมื่อเกิดปัญหาประชาชนก็โทษผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โทษ ส.ก. ในเมื่อเรามาสะท้อนปัญหาในสภาแล้วก็อยากให้ปัญหาหมดไป

นายอนุภาพ ธารทอง ส.ก. เขตสาทร กล่าวว่า ถนนสาทรก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน มีการเสนอให้ปรับพื้นผิวถนนใหม่แต่ติดการเก็บสายไฟฟ้าลงดินจากหน่วยงานอื่นจึงอยากให้มีการติดตามกำชับเพื่อให้เร่งจัดการต่อไป

นายสมชาย เต็มไพบูลย์กุล ส.ก. เขตคลองสาน กล่าวว่าในพื้นที่มีการวางท่อทั้งที่เป็นซอยแคบ อีกทั้งมีการใช้แบ็กโฮขุดทำให้โดนท่อเสียหาย จึงขอฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบด้วย

ด้านนายชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาใหญ่และมีมาอย่างต่อเนื่อง ได้แจ้งขอให้ทางรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยให้ช่วยกับกำดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น การประปานครหลวง การไฟฟ้านครหลวง เร่งรัดในการดูแลคุณภาพของการทำพื้นผิวถนนและฟุตบาทในกรุงเทพฯ ซึ่งท่านเองก็ยินดีช่วยเร่งรัดจัดการให้

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่า สถิติโครงการสาธารณูปโภคในกรุงเทพฯ มีมากถึง 387 โครงการ และมีฝาบ่อที่อยู่บนถนนอีก 386 บ่อ ต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลได้หมดเพราะฝาบ่อมีการเปิดทุกคืน จึงใช้ระบบออนไลน์ขึ้นมาเพื่อให้สำนักงานเขตและประชาชนเป็นหูเป็นตาช่วยแจ้งเข้ามา รวมถึงขึ้นสถานภาพของงานเพื่อให้ตรวจสอบได้ง่าย อีกทั้งยังมีการสแกนโพรงหลังจากการปิดผิวเพื่อเป็นการตรวจสอบก่อนเสร็จงาน มีการติดกล้องบริเวณไซต์งานเพื่อตรวจสอบว่าทำถูกต้องหรือไม่ จากนั้นที่ประชุมเห็นชอบกับญัตติดังกล่าวพร้อมส่งเรื่องให้ฝ่ายบริหารพิจารณาและดำเนินการต่อไป

ผู้ชมทั้งหมด 200 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 4 ครั้ง