
“วิรัช” ติง โครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย ทำลายระบบคูคลองครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์บางกอกใหญ่
วันที่ 30 เมษายน 2568 การประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สอง (ครั้งที่ 4) ประจำปี 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา นายวิรัช คงคาเขต ส.ก. เขตบางกอกใหญ่ เสนอญัตติขอให้กรุงเทพมหานครจัดทำมาตรการแก้ไขผลกระทบที่เกิดจากความล่าช้าของโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสียและระบบบำบัดน้ำเสียธนบุรี (สัญญาที่ 3)
.
นายวิรัช กล่าวว่า เมื่อคราวที่แล้ว ตนสวมชุดดำเพื่อไว้ทุกข์แทนชาวบางกอกใหญ่ โครงการนี้ดำเนินการโดยสำนักการระบายน้ำ มีวงเงินรวม 2,200 ล้านบาท ใช้เวลาดำเนินการ 3 ปี (พ.ศ. 2565 – 2568) ครอบคลุมพื้นที่เขตบางกอกน้อยและเขตบางกอกใหญ่ โดยเขตบางกอกใหญ่มีการก่อสร้างบ่อพักน้ำเสีย 334 บ่อ บ่อดักน้ำเสีย 239 บ่อ เขตมีพื้นที่เพียง 6.8 ตารางกิโลเมตร มีคลองหลัก 7 คลอง คลองย่อยอีก 36 คลอง ทุกคลองมีระบบที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งปัจจุบันพบปัญหาระหว่างก่อสร้าง เช่น รอยห่างระหว่างบ่อและขอบเขื่อนเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางและการไหลเวียนของน้ำ มีการวางแผ่นเหล็กปิดคลองให้รถแม็คโครวิ่งผ่าน ส่งผลให้น้ำไม่ได้รับแสงแดด เกิดน้ำเน่าเสีย
.
นายวิรัช ยังกล่าวถึงปัญหาและอุปสรรคเพิ่มเติม ยังไม่ได้รับอนุญาตก่อสร้างจากกรมเจ้าท่า คลองบางช่วงแคบ ไม่สามารถดำเนินการได้ บ่อบางแห่งอยู่ในที่ดินเอกชน มีเรือจอดรุกล้ำลำคลอง ขัดขวางการก่อสร้าง การขอใช้ถนนเอกชนยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ต้องขยายเวลาก่อสร้างอีก 488 วัน
.
ส.ก. เขตบางกอกใหญ่ ชี้ให้เห็นผลกระทบว่าถือเป็นการทำลายระบบคูคลองครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเขตบางกอกใหญ่ ทำให้น้ำเน่าเสีย กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงและเชื้อโรค คลองที่เคยใส กลายเป็นคลองเน่า เมื่อฝนตก น้ำจากบ้านเรือนระบายไม่ได้ น้ำฝนก็เอ่อล้น กระทบกับชีวิตประชาชนอย่างมาก แผนงานปี 2568 ของเขตบางกอกใหญ่ เช่น โครงการสร้างเขื่อนอีก 2 แห่ง ต้องเลื่อนออกไปทั้งหมด เพราะโครงการบ่อบำบัดยังไม่แล้วเสร็จ โครงการอื่นๆ ก็ต้องรอ ส่งผลให้แผนพัฒนาเขตหยุดชะงัก
.
นายนภาพล จีระกุล ส.ก. เขตบางกอกน้อย กล่าวชื่นชม นายวิรัช ที่อดทน ท่ามกลางปัญหาเดียวกันของทั้งสองเขต ได้ประสานผู้ควบคุมงานให้เร่งแก้ไขแล้ว แต่ยังมีปัญหาน้ำเน่า น้ำไม่ระบายไปดักน้ำไหล พยายามเร่งรัดแต่ไม่คืบหน้า สัญญาหมดแล้ว ผลงานแค่ 20–30% พื้นที่ตนไม่มีคนทำงานแล้ว จึงขอให้ฝ่ายบริหารเตรียมพร้อมโครงการให้ดีก่อนของบประมาณ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความล่าช้าและเดือดร้อนแก่ประชาชนอีก การทำงานหน่วยงานราชการบางแห่งกลับไม่ประสานงาน ไม่แจ้งล่วงหน้า แม้แต่การขออนุญาตก่อสร้างก็ไม่ผ่านกรุงเทพมหานคร
.
นายสมชาย เต็มไพบูลย์กุล ส.ก.เขตคลองสาน กล่าวว่า ตนเคยลงพื้นที่ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านการระบายน้ำ และเห็นตรงกับที่ทั้งสองท่านอภิปราย ขอให้ผู้บริหารเร่งแก้ไข เพราะปัญหานี้ไม่ง่าย
.
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่า โครงการนี้มีการลงนามสัญญาก่อนเข้ารับตำแหน่ง เป็นโครงการรวบรวมน้ำเสียเพื่อนำไปบำบัดรวม ตามแนวคิดที่ต้องขยายไปยังทุกเขต แม้มีอุปสรรคจากหน่วยงานอื่นที่กรุงเทพมหานครควบคุมไม่ได้
.
นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่า บ่อพักน้ำเสียอยู่ใต้คลองลึกประมาณ 1 เมตร ดึงน้ำเสียจากบ้านเรือน ผ่านการเร่งรัดผู้รับจ้างให้ปรับแผนเป็นรายช่วง เร่งออกใบอนุญาตจากกรมเจ้าท่า และลดผลกระทบต่อประชาชน เช่น ไม่ปิดถนน ตั้งหน่วยเฉพาะกิจรับเรื่องร้องเรียนและเร่งแก้ปัญหา
.
นายวิรัช กล่าวสรุปว่า ขอขอบคุณฝ่ายบริหาร แต่ที่ผ่านมาได้ฟังคำชี้แจงบ่อยครั้ง ยังคงเป็นห่วงเรื่องระยะเวลา ขอให้มีแผนที่ชัดเจน ยืนยันว่าตนไม่ได้คัดค้านโครงการ แต่ต้องการให้บริหารอย่างมีแผนที่ชัดเจน หากดำเนินการตามแผน น้ำในคูคลองจะดีขึ้น แต่ตอนนี้เขตบางกอกใหญ่ต้องสูญเสียแผนพัฒนา ถนนหลายเส้นตั้งงบไว้แต่ดำเนินการไม่ได้ เขื่อนก็ต้องล่าช้า ไม่มีการชดเชย แผนพัฒนาเขตสะดุด ส่งผลถึงการของบในปีต่อไป ในเวลาต่อมาที่ประชุมมีมติให้ฝ่ายบริหารไปพิจารณาและดำเนินการต่อไป
ผู้ชมทั้งหมด 104 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 8 ครั้ง