วิสามัญฯ งบ กทม. “เสียงแตก” ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง รพ. จำเป็นหรือไม่ กำชับโยธาเร่งแก้ปัญหาไฟส่องสว่างลดความเดือดร้อนประชาชน

เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 68 ณ ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ในฐานะประธานคณะกรรมการวิสามัญร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เปิดเผยถึงการพิจารณาร่างฯ ของสำนักการโยธา
.
“กรรมการวิสามัญฯ ต้องพิจารณางบประมาณด้วยความรอบครอบ ตรงจุด คุ้มค่า โปร่งใส ตรวจสอบได้ ตรงกับความต้องการของประชาชน เกิดประโยชน์สูงสุด” นายสุรจิตต์ ย้ำในที่ประชุม

ในการประชุมพิจารณางบประมาณฯ คกก.วิสามัญฯ แสดงความคิดเห็นถึงโครงการจ้างผู้ควบคุมงานก่อสร้างอาคารโรงพยาบาล โดยคณะกรรมการฯ มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าวโดยผู้ที่ไม่เห็นด้วยให้เหตุผลว่าสำนักการโยธามีบุคลากรที่มีความสามารถอยู่แล้ว ให้แต่งตั้งเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้างได้ ไม่จำเป็นต้องเสียงบประมาณจ้างบุคคลอื่นเข้ามา ส่วนฝั่งที่เห็นด้วยได้เสนอว่าการสร้างโรงพยาบาลจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพราะหากไม่ควบคุมการก่อสร้างอาจเกิดความผิดพลาดในการวางระบบต่าง ๆ ได้ เช่น ห้องปลอดเชื้อ ท่อก๊าซ ระบบไฟห้องผ่าตัด เป็นต้น

.
นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในงานก่อสร้างมีลักษณะอาคารหลายแบบ อาคารที่ไม่ซับซ้อนสำนักการโยธาสามารถเป็นผู้ควบคุมงานได้ ในกรณีโรงพยาบาลถือเป็นอาคารที่มีความซับซ้อนในองค์ประกอบของ รพ. มีทั้งงานที่เกี่ยวข้องกับงานใต้ดินที่ต้องมีการเจาะสำรวจดินเพื่อนำค่าดินมาวิเคราะห์เพื่อกำหนดขนาดเสาเข็ม รวมถึงงานโครงสร้างต่าง ๆ เมื่องานโครงสร้างเสร็จก็เป็นงานระบบไฟฟ้าซึ่งเป็นส่วนสำคัญเพราะต้องเป็นไฟฟ้าแรงสูง รวมถึงเรื่องสุขาภิบาลและส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เหตุที่ สนย. จำเป็นต้องจ้างผู้ควบคุมงานก่อสร้างเพราะบุคลากรของ สนย. ส่วนใหญ่จะมีเพียงแค่วิศวกรโยธา ในส่วนของวิศวกรเครื่องกลนั้นน้อยมาก ซึ่งเมื่อเปิดรับสมัครวิศวกรเครื่องกลนั้นแทบไม่มีผู้สมัคร รวมถึงวิศวกรไฟฟ้าและวิศวกรสุขาภิบาลมีน้อยเช่นกัน

ด้านนายธวัชชัย นภาศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักการโยธา ชี้แจงว่า ในการก่อสร้างโรงพยาบาลจำเป็นต้องมีผู้มีความรู้ความสามารถที่เชี่ยวชาญในการควบคุมระบบต่าง ๆ ของโรงพยาบาล ทั้งวิศวกรโยธา วิศวกรไฟฟ้า สถาปนิก รวมถึงด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการผิดพลาดเมื่อสร้างเสร็จ เช่นกรณีที่เกิดกับ รพ.แห่งหนึ่งที่สร้างห้องผ่าตัดแต่ไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากไม่ได้สร้างเป็นห้องปลอดเชื้อตั้งแต่แรก

.
จากนั้น คกก.วิสามัญฯ สอบถามถึงโครงการจ้างที่ปรึกษาประเมินกำลังต้านแผ่นดินไหวในตึกสูงของกรุงเทพมหานคร ว่า
โครงการดังกล่าวมีระยะการจ้างงานถึง 2 ปี และเมื่อจัดทำระบบเสร็จแล้วนั้น ระบบจะสามารถวัดแรงแผ่นดินไหวได้แล้วยังสามารถวัดความแข็งแรงของโครงสร้างอาคารได้หรือไม่ พร้อมกำชับให้ประสานสำนักการวางผังและพัฒนาเมืองก่อนดำเนินการก่อสร้างเพื่อป้องกันการผิด พรบ. และไม่ต้องเสียเวลาในปรับเปลี่ยนสีผังเมืองเพื่อก่อสร้างอาคาร

ผอ.สนย. ชี้แจงว่า โครงการดังกล่าวที่ปรึกษาต้องใช้เวลาสำรวจและสร้างแบบจำลอง 360 วัน จำนวน 8 ตึกสูงในกรุงเทพฯ และดำเนินการต่อจนครบเวลาสัญญา ส่วนระบบนั้นเมื่อสร้างเสร็จจะสามารถวัดความแข็งแรงของโครงสร้างอาคารได้เพราะจำลองแบบมาจากของจริง หากมีส่วนไหนที่เสียหายจะสามารถระบุจุดเพื่อซ่อมแซมได้ และหากอาคารเกิดการสั่นไหวจะสามารถแจ้งได้ว่าจำเป็นต้องอพยพหรือไม่

.
ในที่ประชุมคกก.วิสามัญฯ ตั้งคำถามถึงโครงการเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าเป็น LED ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นเฟสที่ 4 ในหลายพื้นที่ บางพื้นที่ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ยังไม่ได้ปรับเปลี่ยน โดยประชาชนชื่นชมเป็นอย่างมากในช่วงแรก ๆ ที่ปรับเปลี่ยนเสร็จ แต่พอผ่านไประยะเวลาหนึ่งอุปกรณ์เริ่มทำงานผิดพลาด บางดวงดับ บางดวงกระพริบ บางดวงติดเวลากลางวันแต่ดับเวลากลางคืน พอแจ้งไปยังสำนักการโยธาใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะมาซ่อมทำให้ประชาชนเดือดร้อนทั้งชีวิตและทรัพย์สิน หากเปลี่ยนกลับไปให้การไฟฟ้านครหลวงดำเนินการส่วนนี้จะดีกว่าหรือไม่ บางพื้นที่ชาวบ้านไม่ต้องการปรับเปลี่ยนหลอดไฟจากสำนักการโยธาอยากได้ของ กฟน. มากกว่า เพราะติดตั้งเร็วซ่อมเร็วกว่า

ด้าน ผอ.สนย กล่าวว่า ในช่วงเริ่มแรกมีการกำหนดสเปค LED ไว้สูงและคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งได้ตรวจพบว่าส่วนใหญ่จะมีปัญหาที่โหนด (จุดเชื่อมต่อ) กำลังดำเนินการแก้ไขในส่วนนี้ ส่วนเฟสที่ 2 มีการปรับเปลี่ยนนำโหนดออก ส่วนกรณีที่ไฟกระพริบนั้นเส่วนใหญ่จะเป็นผลมาจากอุปกรณ์สวิตช์ไฟฟ้าที่ใช้ในการเปิด-ปิดวงจรไฟฟ้า (รีเลย์) เสีย ซึ่งบริษัทผู้รับจ้างติดตั้งไฟฟ้าจะรับผิดชอบแค่ในส่วนของโคมไฟเท่านั้น เมื่อมีประชาชนแจ้งซ่อม บริษัทผู้รับจ้างพบว่าเป็นส่วนอื่นที่ไม่ใช่โคมไฟเสียผู้รับจ้างจะแจ้งให้สนย. ซ่อมเองทำให้เสียเวลามากยิ่งขึ้น ซึ่ง สนย. กำลังเร่งเจราจากับผู้รับจ้างว่าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ให้ดำเนินการซ่อมทันทีแล้วเบิกจ่ายเงินกับสนย. ส่วนในเฟส 3 และ 4 จะมีการอบรมเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตเพื่อให้สามารถซ่อมไฟฟ้าในเขตของตนเองได้ โดยตามหลักสำนักงานเขตจะรับผิดชอบไฟตามทาง ส่วนสำนักการโยธาจะรับผิดชอบไฟทางหลวง ส่วนในเรื่องติดตั้งไฟแล้วสักพักไฟดับสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการถูกลักขโมยสายไฟ ในส่วนนี้จะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการร้อยสายไฟใหม่เพื่อป้องกันการลักขโมย

.
จากนั้น คกก.วิสามัญฯ ได้ตั้งข้อสังเกตถึงการให้สำนักงานเขตเป็นผู้รับผิดชอบงานซ่อมไฟฟ้านั้นอาจจะเป็นอันตรายได้ เพราะไม่มีอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยครบถ้วนเหมือนสำนักการโยธาหรือการไฟฟ้า แม้จะรับการอบรมมาแล้วก็ตาม

.
ทางด้านโครงการซ่อมแซมตึกธานีนพรัตน์เพื่อรองรับการย้ายศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า มาดินแดงนั้น รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายณรงค์ เรืองศรี ได้กล่าวว่ามีแผนและผังของหน่วยงานต่างๆ เรียบร้อยแล้ว และได้เริ่มดำเนินการแล้ว ด้าน ผอ.สนย. กล่าวเสริมว่า จะมีการย้ายสำนักงานที่อยู่ ศาลาว่าการฯ เสาชิงช้ามาที่ศาลาว่าการฯ ดินแดงเมื่อซ่อมแซมเสร็จสิ้น โดยศาลาว่าการฯ เสาชิงช้าจะปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองและมีสำนักวัฒนธรรมฯ และสำนักเทศกิจประจำการ
.
ผอ.สนย. กล่าวทิ้งท้ายว่า จะนำข้อสังเกตของคณะกรรมการวิสามัญฯ ไปปรับเปลี่ยนวิธีการและปรับปรุงการทำงานให้สอดคล้องกับงานของสำนักการโยธาให้คลอบคลุมมากขึ้น
//////////////

ผู้ชมทั้งหมด 254 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 2 ครั้ง