skip to Main Content
คณะกรรมการวิสามัญฯพิจารณางบกทม. ห่วงใยปัญหาการขาดแคลนรพ.ในบางพื้นที่โซน

คณะกรรมการวิสามัญฯพิจารณางบกทม. ห่วงใยปัญหาการขาดแคลนรพ.ในบางพื้นที่โซน

ณ อาคารไอราวัตพัฒนา กทม.2 ดินแดง : นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 สภากรุงเทพมหานคร ประชุมคณะกรรมการวิสามัญฯ เพื่อพิจารณางบประมาณของสำนักการแพทย์และสำนักอนามัย กทม.

ในที่ประชุม นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. ได้รายงานภาพรวมการดำเนินงานของสำนักการแพทย์ ในปัจจุบันสำนักการแพทย์มีโรงพยาบาลในสังกัดรวมทั้งสิ้น 11 แห่ง สามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 2,100 เตียง โดยแบ่งโซนการดูแลตามที่ตั้ง ซี่งหากรวมเตียงกับโรงพยาบาลในสังกัดอื่นในพื้นที่เดียวกัน สามารถรองรับประชาชนได้อย่างเพียงพอ อย่างไรก็ตามยังมีบางพื้นที่ที่ยังไม่มีสถานพยาบาลครอบคลุม อาทิ กรุงเทพใต้ และกรุงเทพเหนือ ซึ่งสำนักการแพทย์ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติรวมถึงภาคีสถานพยาบาลอื่น ดูแลผู้ป่วยในกรุงเทพฯอย่างเต็มศักยภาพ สำหรับการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ในสถานการณ์ปัจจุบัน ได้ขยายศักยภาพเตียงและจัดตั้งรพ.สนามเพื่อดูแลผู้ป่วยเพิ่มกว่า 1,000 เตียง รวมถึงขยายการให้บริการรับ-ส่งผู้ป่วย โดยศูนย์เอราวัณ เพิ่มคู่สายโทรศัพท์จากเดิม 30 คู่สาย เป็น 60 คู่สาย และ 100 คู่สายตามลำดับ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในปัจจุบันมีแนวโน้มคงที่ และหลังจากช่วงวันหยุดยาวยังไม่พบการติดเชื้อในอัตราที่สูงขึ้นจนน่าเป็นห่วง จึงเชื่อว่ายังคงสามารถรองรับผู้ป่วยในพื้นที่กทม.ได้

ทั้งนี้ที่ประชุมได้สอบถามเกี่ยวกับอัตราค่าบริการทางการแพทย์สำหรับกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่มาทำงานในกรุงเทพฯ การจัดซื้อยาเพื่อรักษาโรคโควิด-19 ความเหมาะสมของค่าตอบแทนบุคลากรทางการแพทย์ และได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดตั้งโรงพยาบาลเพิ่มเติมในพื้นที่โซนที่ยังขาด ซึ่งผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ได้กล่าวขอบคุณและพร้อมรับข้อแนะนำจากคณะกรรมการวิสามัญฯไปปรับใช้ โดยจะนำงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างสุขภาพที่ดีให้แก่พี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯต่อไป
——————

ขอบคุณภาพและข่าว จากสำนักงานประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร

ผู้ชมทั้งหมด 278 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 1 ครั้ง

This Post Has 0 Comments
กรุณาเข้าสู่ระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็น
Back To Top