(20 ก.ย. 67) นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร ร่วมกับ นายอนุรักษ์ เลิศวัฒนาไพบูลย์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตวังทองหลาง พร้อมคณะ ร่วมบริจาคน้ำดื่ม อาหารแห้ง และของใช้จำเป็น…
ส.ก.บางกอกใหญ่ ติดตามความคืบหน้าขอให้กทม.แก้ไขพรบ.ปี 2528 ให้สามารถจัดเก็บภาษีประเภทอื่นเพิ่มเติม
(29 พ.ย. 67) นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 3) ประจำปีพุทธศักราช 2567 โดยมี สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง
.
นายวิรัช คงคาเขตร ส.ก.เขตบางกอกใหญ่ ได้ยื่นกระทู้ถามสด เรื่อง การดำเนินการจัดเก็บรายได้ของกรุงเทพมหานครตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ซึ่งนายวิรัชได้มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ก.1/2567 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2567 เพื่อสอบถามถึงการดำเนินการ ขั้นตอน และวิธีการจัดเก็บรายได้ตามพรบ.ดังกล่าว ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครก็ได้มีการชี้แจงตอบกลับเป็นหนังสือ ที่กท 1302/4451 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 แล้ว
.
ส.ก.เขตบางกอกใหญ่ กล่าวชี้แจงว่า เมื่อได้พิจารณาหนังสือตอบกลับฉบับดังกล่าว ตนมีความเห็นเพิ่มเติมเห็นควรให้กรุงเทพมหานครมีการเร่งรัดในการจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมอีก 3 ประเภทที่ยังไม่ได้ดำเนินการในปัจจุบัน คือ การจัดเก็บภาษีน้ำมัน จากเก็บเพิ่มจากเดิมลิตรละ 5 สตางค์ เป็นลิตรละ 10 สตางค์ จะทำให้กรุงเทพมหานครมีรายได้เพิ่มเติมประมาณ 390 ล้านบาท ภาษีค่าธรรมเนียมผู้พักในโรงแรม เนื่องจากปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยเยอะมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครและกระจายเดินทางไปยังท่องเที่ยวยังท้องถิ่นอื่นๆ ซึ่งท้องถิ่นอื่นๆสามารถจัดเก็บภาษีตรงส่วนนี้ได้ แต่กรุงเทพมหานครยังไม่สามารถดำเนินการได้ หากสามารถดำเนินการจัดเก็บในอัตราไม่เกินร้อยละ 3 ของค่าเช่าห้องพัก คาดว่าจะสามารถจัดเก็บค่าธรรมเนียนจากผู้พักในโรงแรมได้ประมาณ 1,022 ล้านบาท และภาษียาสูบก็เช่นเดียวกัน ซึ่งหากจัดเก็บภาษีในอัตรามวลละ 10 สตางค์ จะสามารถเก็บภาษีเพิ่มได้ปีละประมาณ 330 ล้านบาท ซึ่งถ้าสามารถจัดเก็บเพิ่มได้ทั้ง 3 ภาษีดังกล่าว กรุงเทพมหานครจะมีงบประมาณเพิ่มขึ้นไม่ต่ำว่า 1,600 กว่าล้านบาท จึงอยากให้ฝ่ายบริหารเร่งรัดในการแก้ไขพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 เพื่อให้กรุงเทพมหานครมีอำนาจในการจัดเก็บภาษี
.
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้แจงว่า กรุงเทพมหานครได้ทำหนังสือไปถึงกระทรวงมหาดไทยแล้ว เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567 เพื่อขอแก้ไขพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 ให้กรุงเทพมหานครสามารถจัดเก็บภาษีทั้ง 3 ประเภทได้ ซึ่งจะต้องทำการเร่งรัดไปยังกระทรวงมหาดไทยต่อไป
————————-
ผู้ชมทั้งหมด 14 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 14 ครั้ง