สภา กทม. หารือแนวทางแก้ไขปัญหาการจัดการจราจรในเขตเมืองร่วมกับจังหวัดรอยต่อ

นายวิพุธ ศรีวะอุไร ประธานสภากรุงเทพมหานคร นายฉัตรชัย หมอดี รองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่สอง และผู้แทนจากหน่วยงานสำนักการจราจรและการขนส่ง ให้การต้อนรับคณะเทศบาลนครนนทบุรีและคณะเทศบาลนครปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เนื่องในโอกาสเดินทางเยือนสภากรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมประชุมหารือแลกเปลี่ยนความร่วมมือระหว่างสมาชิกสภากรุงเทพมหานครกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดปริมณฑลที่เป็นพื้นที่รอยต่อกับกรุงเทพมหานคร ในประเด็นการดำเนินการแก้ไขปัญหาระบบการจัดการจราจร ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง

สภากรุงเทพมหานคร มีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับคณะจากเทศบาลนครนนทบุรี และเทศบาลนครปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อร่วมประชุมหารือแลกเปลี่ยนความรู้ความร่วมมือในแนวทางการจัดระบบการจราจร การร่วมหารือในครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่องค์กรฝ่ายนิติบัญญัติของสภากรุงเทพมหานคร และเทศบาลนครนนทบุรี และเทศบาลนครปากเกร็ด ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แนวคิด และสร้างความร่วมมือในการหาแนวทางบูรณาการการพัฒนาพื้นที่ร่วมกัน ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การหารือร่วมกันในครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญต่อการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน เพื่อประสานความร่วมมือและพึ่งพากันในการพัฒนาท้องถิ่นให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างเท่าเทียม และการสร้างความร่วมมือแบบบูรณาการต่อไปในอนาคต อันจะก่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและเกิดประโยชน์ต่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน นายวิพุธ กล่าว

ในที่ประชุมนายสนั่น โทวะดี หัวหน้ากลุ่มงานวางแผนและออกแบบ 1 สำนักงานวิศวกรรมจราจร สำนักการจราจรและขนส่ง ได้นำเสนอข้อมูลแนวทางการดำเนินการด้านจราจรของกทม.โดยแบ่งเป็น 5 หัวข้อ ดังนี้ 1. นโยบายผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ 9 ดี เป็นการรายงานการเกิดอุบัติเหตุในช่วงปี 2567-2568 ที่มีสถิติลดลง 2. ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยบริเวณทางข้าม มีการปรับปรุงทางข้าม อาทิ ยกระดับเนินลาดทางข้าม เพิ่มจุดพักคอย 3. นโยบายเร่งด่วน 5 พฤติกรรมเสี่ยง มีการเพิ่มกล้องวงจรปิด เพื่อบันทึกภาพผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย การฝ่าไฟแดง จอดล้ำเส้นที่แยก จอดในที่ห้ามจอด ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย และตรวจจับผู้ไม่สวมหมวกกันน็อค 4.มาตราการลดความเร็ว จำกัดความเร็วในพื้นที่ กทม. ไม่เกิน 60 กม./ชม. เขตชั้นใน ไม่เกิน 50 กม./ชม. และในเขตชุมชน ไม่เกิน 30 และ 45 กม./ชม. และ 5.มาตราการความปลอดภัยสำหรับผผู้ใช้รถจักรยานยนต์ จะมีการแบ่งช่องจราจรสำหรับรถจักรยานยนต์ (MC Lane) ตามสะพานข้ามแยก เพิ่มจุดกลับรถจักรยานยนต์ และช่องจอดสำหรับรอสัญญาณไฟแดง

ด้านสมาชิกสภาเทศบาลนครนนทบุรี ได้ตั้งข้อสังเกตถึงการทำทางข้ามทางม้าลายของกรุงเทพมหานคร ว่า เนื่องจากกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่มีทางข้ามที่เป็นทางม้าลาย หากเกิดอุบัติเหตุในชั่วโมงเร่งด่วนอาจจะทำให้การจราจรติดขัดมากยิ่งขึ้น และการเพิ่มบัสเลนทำให้ทัศวิสัยในการขับรถแคบลงเมื่อมีรถจอดรับ-ส่งผู้โดยสาร ไม่มีสัญญาณเตือนคนข้ามถนนที่เห็นได้ชัดเจน ถ้าหากสามารถเพิ่มสะพานลอยทางข้ามหรืออุโมงค์ทางลอดได้จะเป็นการดีกว่า ด้านสำนักการจราจรชี้แจงว่า เนื่องจากกรุงเทพมหานครได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว ทำให้ผู้สูงอายุไม่สะดวกในการใช้สะพานลอย หากเพิ่มสะพานลอยต้องคำนึงถึงพื้นที่มากขึ้น ด้านอุโมงค์ทางลอดเช่นเดียวกันต้องคำนึงถึงพื้นที่และงบประมาณที่จะสร้าง หากพื้นที่เป็นแค่ 2 เลน จะสิ้นเปลืองงบประมาณกรุงเทพมหานครเกินไป และเนื่องจากเป็นจุดอับสายตาเวลากลางคืนบางแห่งจึงต้องปิดเพื่อความปลอดภัย ทำให้ไม่สะดวกในการใช้สอย
.
นายฉัตรชัย รองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่สอง กล่าวเสริมว่า ในพื้นที่กทม.มีผู้สูงอายุจำนวนมาก การใช้สะพานลอยทางข้ามจึงไม่ตอบโจทย์ บางพื้นที่สะพานลอยไม่มีผู้ใช้งานถูกทิ้งร้างและบดบังทัศนียภาพของเมืองอีกด้วย การใช้ทางข้ามทางม้าลายจะเป็นประโยชน์มากกว่า แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ใช้ แต่สะพานลอยทางข้ามในหน้าโรงเรียนยังเป็นที่สำคัญเพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน
.
จากนั้นสมาชิกสภาเทศบาลนครปากเกร็ด แนะนำว่าหากสะพานลอยที่มีอยู่เดิมสามารถติดตั้งลิฟท์หรือบันไดเลื่อนและการสร้างใหม่พร้อมตัวลิฟท์จะเป็นการอำนวยความสะดวกกับพี่น้องประชาชนได้อย่างมาก อีกทั้งถนนแจ้งวัฒนะที่เป็นถนนสายหลักในการเดินทางข้ามจังหวัดมีพื้นผิวถนนชำรุดทั้งเส้นเนื่องจากมีการปรับปรุงสาธารณูปโภค ทาง สจส. ชี้แจงเพิ่มเติมในพื้นที่ กทม. มีสะพานลอยที่มีการติดตั้งลิฟท์ไว้บางส่วน แต่เนื่องด้วยกำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงอาจจะยังไม่พร้อมให้บริการ และการสร้างสะพานลอยพร้อมลิฟท์หรือติดตั้งลิฟท์ในสะพานเดิมสามารถทำได้หากมีงบประมาณ โดยต้องคำนึงถึงพื้นที่การสร้างด้วย

นายวิพุธ กล่าวเสริม หากติดตั้งลิฟท์กับสะพานลอยจะเป็นการดีสำหรับผู้พิการ เหมือนกับสถานีรถไฟฟ้าที่มีเช่นเดียวกัน แต่ต้องคำนึงถึงพื้นที่เดิมด้วยว่า หากติดตั้งลิฟท์แล้วจะบดบังทางเดินทางหรือไม่เพราะประชาชนและผู้พิการต้องใช้สัญจรเช่นกัน และถนนแจ้งวัฒนะที่มีการปรับปรุงพื้นผิวถนนนั้น ผู้รับจ้างของรถไฟฟ้า ซึ่ง กทม. เป็นเจ้าของพื้นที่ มีหน้าที่กำกับดูแลจะมีการกำชับให้ผู้รับจ้างให้ดำเนินการให้เรียบร้อยโดยเร็ว
.
ด้านสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ได้เสนอความเห็น อาทิ
นายอานุภาพ ธารทอง ส.ก. เขตสาทร กล่าวว่า เห็นด้วยกับการปรับปรุงสะพานลอยทางข้ามเพื่อให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการสามารถเดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้นเป็นความคิดที่ดี การประชุมหารือในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้สภาทั้งสามได้หารือร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองให้พี่น้องประชาชน
นายสมชาย เต็มไพบูลย์กุล ส.ก. เขตคลองสาน กล่าวว่า ในพื้นที่คลองสานจะมีโครงการสร้างสะพานลอยหน้าศูนย์ราชการแห่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอีก 2-3 ปี ข้างหน้า ตนได้เสนอกับตัวแทนกระทรวงมหาดไทยให้ปรับเพิ่มบันไดเลื่อนเข้าศูนย์ราชการด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนและความปลอดภัยของพระภิกษุสงฆ์ในช่วงเดินบิณฑบาตตอนเช้ามืด
และนายนวรัตน์ อยู่บำรุง ส.ก. เขตหนองแขม กล่าวว่า หากมีงบประมาณสามารถทำได้ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน แต่ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าของงบประมาณด้วย

ด้านคณะเทศบาลนครปากเกร็ด กำชับว่า พื้นที่ของเทศบาลปากเกร็ดเป็นพื้นที่รับน้ำจากกทม. หาก กทม. มีการระบายน้ำที่มากเกินไปจะยิ่งกระทบเป็นวงกว้างได้ หากมีสถานีสูบน้ำเพิ่มติมจะเป็นการดีต่อพื้นที่ทั้งสอง และเน้นย้ำว่าต้องมีมาตราการการทำงานข้ามเขตด้วยเพื่อป้องกันปัญหาในพื้นที่ทับซ้อน

โดยทางสำนักการจราจรและขนส่งได้รับข้อปัญหาและข้อเสนอแนะจากทั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร และผู้แทนทั้ง 2 เทศบาล ไปศึกษาเชิงลึกเพิ่มเติมต่อไป

ในการนี้สมาชิกสภากรุงเทพมหานครร่วมให้การต้อนรับและประชุมหารือแลกเปลี่ยน ได้แก่ นายนวรัตน์ อยู่บำรุง ส.ก.เขตหนองแขม ในฐานะประธานคณะกรรมการการปกครองและรักษาความสงบเรียบร้อย นางสาวภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย ส.ก.เขตบางซื่อ ในฐานะประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อม นายสมชาย เต็มไพบูลย์กุล ส.ก.เขตคลองสาน นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทร ส.ก.เขตจอมทอง และนายอานุภาพ ธารทอง ส.ก.เขตสาทร
——————————
#สภากรุงเทพมหานคร #สภากทม #กรุงเทพมหานคร #bma #BMC

ผู้ชมทั้งหมด 40 ครั้ง, ผู้ชมวันนี้ 16 ครั้ง