สภากทม.เสนอกำหนดมาตราการป้องกันอุบัติเหตุ การทัศนศึกษาของนักเรียนสังกัดกทม.

(2 ต.ค. 67) นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สี่ (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2567 โดยมี สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง

.

นายพีรพล กนกวลัย สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตพญาไท ยื่นญัตติด้วยวาจา เรื่อง ขอให้กรุงเทพมหานครกำหนดมาตรการป้องกันอุบัติเหตุอันเกิดจากการศึกษาดูงานของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เป็นการศึกษาดูงานของเด็กนักเรียนของโรงเรียนใน จ.อุทัยธานี เมื่ออุบัติเหตุเกิดขึ้นมาแล้วนั้นต้องเรียนรู้จากอุบัติเหตุว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เพราะฉะนั้นจึงอยากให้กรุงเทพมหานครเตรียมพร้อมถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับนักเรียนสังกัดกทม.ในอนาคต การศึกษาดูงานนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กเห็นโลกกว้างขึ้น และช่วยเสริมพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก การยกเอาเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมาตัดการศึกษาดูงานของเด็กนักเรียนคงเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือเรื่องระดับชั้นและอายุของเด็กนักเรียน ไม่ควรเหมารวมว่าตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงระดับประถมศึกษาดูงานในสิ่งเดียวกันเพราะการรับรู้ของเด็กแต่ละช่วงวัยแตกต่างกัน การศึกษาดูงานไม่ควรนำเด็กที่วัยต่างกันและระดับชั้นเรียนต่างกันไปศึกษาดูงานแบบเดียวกัน และการศึกษาดูงานนั้น มีส่วนประกอบอื่น เช่น ยานพาหนะ ครูผู้ควบคุม และสถานที่ สิ่งเหล่านี้สามารถเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ทุกขั้นตอนหากไม่ระมัดระวัง จึงขอฝากฝ่ายบริหารกรุงเทพมหานครเตรียมการหรือกำหนดมาตราการที่เข้มงวด เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเด็กนักเรียนในอนาคต

.

ทั้งนี้ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครได้ร่วมอภิปรายสนับสนุนญัตตินี้หลายท่าน ได้แก่ นางสาวเมธาวี ธารดำรงค์ ส.ก.เขตปทุมวัน กล่าวว่า เรื่องของการเดินทางไปศึกษาดูงานของเด็กนักเรียนต้องมีรถนำขบวน เพื่อให้พนักงานขับรถเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น มีการจำกัดความเร็ว รวมถึงควรต้องมีพนักงานขับรถอย่างน้อย 2 คนเพื่อผลัดเปลี่ยนกันในการขับรถระยะทางไกล รวมทั้งต้องคอยตรวจสอบสภาพรถ ความพร้อมของอุปกรณ์ฉุกเฉิน ถังดับเพลิง หรือประตูฉุกเฉิน ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตลอดเวลา

.

นายพุทธิพัชร์ ธรรยาธรรมนนท์ ส.ก.เขตยานนาวา กล่าวเสริมว่า กรุงเทพมหานครควรถอดบทเรียนจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ว่า กรุงเทพมหานครควรเพิ่มการควบคุมรถที่วิ่งเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ ตรวจสอบสภาพรถ การดัดแปลงสภาพรถ ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก เป็นการทำงานเชิงรุก รวมถึงการพิจารณาการจัดซื้อจัดจ้างควรคำนึงถึงความปลอดภัยมากกว่าความคุ้มค่า รวมถึงการศึกษาดูงานของเด็กนักเรียนทั้งในสังกัดกทม.หรือสังกัดอื่น อาจต้องมีการกำหนดอายุของเด็ก เด็กเล็กไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังสถานที่ไกล ๆ แค่เพียงในบริเวณใกล้โรงเรียน เด็กก็ได้พัฒนาการเรียนรู้โลกกว้างมากขึ้นแล้ว

.

นายวิรัช คงคาเขตร ส.ก.เขตบางกอกใหญ่ กล่าวว่า เนื่องจากกระแสในสื่อต่างๆ มีการแสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่ว่าควรยกเลิกการทัศนศึกษาของเด็ก บางส่วนก็แสดงความคิดเห็นว่าการทัศนศึกษาของเด็กนั้นเป็นการเรียนรู้และได้ประสบการณ์ตรง การเกิดอุบัตินั้นมีทั้งที่เกิดจากตัวบุคคลและสภาพแวดล้อม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนั้นมาจากสภาพแวดล้อม ขาดการตรวจสอบความพร้อมของสภาพรถก่อนออกเดินทาง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้ โดยการจัดหารถยนต์รับ-ส่งต้องตรวจสอบรายละเอียดให้ดีคำนึงถึงคุณภาพและความปลอดภัยอันดับแรก

.

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า นอกเหนือจากรถที่เช่าในการไปทัศนศึกษาของสำนักการศึกษานั้น ยังมีรถของกทม.ที่มีประมาณ 80 คัน ที่ไว้ใช้รับ-ส่งนักเรียนนักกีฬาของกรุงเทพมหานคร เพื่อเดินทางไปร่วมแข่งขันกีฬาในต่างจังหวัด ซึ่งยังไม่ได้รับข้อมูลของสภาพรถรวมถึงพนักงานขับรถประจำรถคันนั้น ๆ อีกด้วย ซึ่งกทม.จะมีมาตราการด้านคนขับรถควบคู่ไปกับมาตราการการจัดหารถจากหน่วยงานภายนอกสำหรับการทัศนศึกษาด้วย โดยจะรีบดำเนินการและสรุปเพื่อรายงานต่อสภากรุงเทพมหานครต่อไป

———————————-