นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังหารือฝ่ายบริหารและเห็นพ้องที่จะเพิ่มศักยภาพสถานพยาบาลระดับปฐมภูมิของกรุงเทพมหานคร หรือ ศูนย์บริการสาธารณสุข ให้สามารถดูแลประชาชนไม่ใช่เฉพาะระดับเขตเท่านั้น แต่ต้องดูแลในระดับแขวงด้วย นอกเหนือจากการเล็งขยายผลโรงพยาบาลสังกัดกทม. 50 เขต 50 โรงพยาบาล
“จากการที่สมาชิกสภากรุงเทพมหานครได้ลงพื้นที่ติดตามปัญหาของประชาชนในชุมชนอย่างใกล้ชิด พบว่า ปัญหาทางด้านสาธารณสุขเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ต้องมีการแก้ไขตั้งแต่ระดับนโยบายเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบบริการปฐมภูมิได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม” ประธานสภากทม. กล่าว
โดยเบื้องต้นเห็นร่วมกันว่าควรดำเนินการเพิ่มเตียงดูแลผู้ป่วยที่มีอาการไม่มาก เป็นการดูแลในระยะสั้น และลดภาระในการเดินทางของผู้ป่วยและคนในครอบครัวที่ต้องเดินทางไปดูแล นำร่องตามกลุ่มเขตและจะขยายผลไปยังศูนย์ที่มีความพร้อมในเชิงกายภาพเพียงพอ ทั้งนี้ได้ตั้งข้อสังเกตในการตั้งศูนย์ฯ นำร่อง ให้ฝ่ายบริหารพิจารณาข้อมูลผู้สูงอายุและผู้พิการในแต่ละเขตประกอบ เพื่อให้การทำงานครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงให้พิจารณาเพิ่มศูนย์ฯ ในพื้นที่เขตที่มีศูนย์ฯ จำนวนน้อยไม่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และจำนวนประชากร อาทิ เขตดินแดง เขตคลองเตย เขตบางซื่อ และเขตบึงกุ่ม
ในส่วนของการดูแลสภาพแวดล้อมที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนก็เป็นสิ่งที่สมาชิกสภากรุงเทพมหานครให้ความสำคัญเช่นกัน โดยได้ขอให้หน่วยงานของกทม.ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อที่จะช่วยกันทำงานในเรื่องของการควบคุมป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ให้การบริการวัคซีนฟรีกับชุมชนในกรุงเทพมหานคร
ตลอดจนการให้บริการพ่นฆ่ายุงลาย ซึ่งควรประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าภาครัฐมีการจัดการให้บริการ โดยคิดค่าธรรมเนียมเช่นเดียวกับบริการตัดต้นไม้ซึ่งสำนักงานเขตปฏิบัติอยู่ในขณะนี้ หากประชาชนทั่วไปดำเนินการพ่นกันเอง หรือกลุ่มนักการเมืองที่ใช้น้ำมันผสมในยาและใช้เครื่องพ่นที่เป็นหมอกควัน และดำเนินการไม่ถูกวิธี อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตของประชาชนได้
